สำนักงานเลขาธิการคุรุสภากำหนดคัดเลือกครูภาษาไทยในประจำการของสถาบันการศึกษาระดับต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน รวมทั้ง ผู้สอนภาษาไทยในระดับอุดมศึกษาที่มีผลงานดีเด่นเพื่อประกาศเกียรติคุณเป็นครูภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2565 จำนวนไม่เกิน 50 รางวัล จะได้รับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ โล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตร มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และยกย่องเชิดชูเกียรติครูภาษาไทยที่มีผลงานดีเด่นให้เป็นแบบอย่างที่ดี สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้ครูภาษาไทยพัฒนาตนเอง และจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ ส่งเสริมและกระตุ้นให้สร้างนวัตกรรมการการจัดการเรียนรู้ที่เพิ่มคุณภาพของผู้เรียน และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับรางวัลได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ทางวิชาชีพต่อไป
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น เป็นครูหรืออาจารย์ประจำสอนภาษาไทยในสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา หรือระดับอุดมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชนปฏิบัติการสอนในวิชาภาษาไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ออกประกาศ เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ยกเว้นอาจารย์ประจำในระดับอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ) มีความประพฤติดี และไม่อยู่ในระหว่างการถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ถูกดำเนินการทางวินัย หรือเป็นผู้เคยถูกลงโทษทางวินัย แม้จะได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินแล้วก็ตาม รวมทั้งการดำเนินการเกี่ยวกับการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน ส่งเสริมผู้เรียนให้มีพัฒนาการการเรียนรู้ภาษาไทยที่เหมาะสมกับสถานภาพและความพร้อมของผู้เรียนแต่ละคน มีความเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการใช้ภาษาไทย และไม่เคยได้รับรางวัลการยกย่องเป็นครูภาษาไทยดีเด่น
หลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านการจัดการเรียนรู้ 2) ด้านผลงานวิชาการ ให้เลือกส่งตามประเภทของระดับการศึกษา ดังนี้ 2.1) ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา จำนวน 2 รายการ และ 2.2) ระดับอุดมศึกษา จำนวน 2 รายการ และ 3) ผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน โดยการเสนอผลงานหรือเสนอชื่อ มี 2 วิธี คือ ครูหรืออาจารย์ประจำที่สอนภาษาไทยในสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา หรือระดับอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน สามารถเสนอผลงานด้วยตนเอง หรือ ได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น โดยให้ผู้บริหารสถานศึกษา คณบดี ผู้บริหารองค์กรหรือหน่วยงาน ลงนามรับรองแบบประวัติและผลงาน ผู้รับรองอาจเสนอชื่อผู้เข้ารับรางวัลได้มากกว่าหนึ่งคน ทั้งนี้ หากเสนอผลงานด้วยตนเองแล้ว ต้องไม่ให้บุคคอื่นเสนอผลงานซ้ำอีก โดยผู้เสนอผลงานหรือได้รับการเสนอชื่อ กรอกแบบรายงานประวัติและผลงานตามแบบที่คุรุสภากำหนด และส่งผลงานเพื่อพิจารณาคัดเลือกไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ภายในวันที่ 20 เมษายน 2565 ทั้งนี้ หากผลงานได้รับการพิจารณาคณะอนุกรรมการฯ อาจไปประเมินสภาพจริงได้
วิธีการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น ในจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครูหรืออาจารย์ทุกสังกัด ในจังหวัด โดยแต่งตั้งกรรมการคัดเลือกฯ จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน ให้มีผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาภาษาไทย และผู้แทนจากทุกสังกัด ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น ตามคุณสมบัติให้ได้ จังหวัดละ 3 คน แล้วประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อรับฟังคำคัดค้านภายใน 7 วัน และให้บันทึกข้อมูลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อลงในระบบ “ยกย่องวิชาชีพ งานรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น” (tepis2.ksp.or.th) ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2565 ส่งรายงานการประชุมสรุปผลการคัดเลือกฯ พร้อมทั้งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในรูปแบบไฟล์ PDF ทางอีเมล Pichayut@ksp.or.th ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เพื่อดำเนินการคัดเลือกต่อไป
เมื่อคัดเลือกเสร็จให้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อรับฟังคำคัดค้านภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันประกาศรายชื่อและออกเกียรติบัตรให้แก่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในจังหวัด และให้ส่งประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยไม่ต้องรอฟังคำคัดค้าน ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เพื่อพิจารณาคัดเลือกต่อไป ในส่วนของการคัดเลือกครูผู้สอนดีเด่น ในกรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาคัดเลือกแทนสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จะประกาศผลภายในเดือนธันวาคม 2565 คำวินิจฉัยของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพถือเป็นที่สุด และกำหนดมอบรางวัลในงานวันครู พ.ศ. 2566 หรือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกหากมีพฤติกรรมเสื่อมเสียต่อวิชาชีพหรือขัดต่อจรรยาบรรณของวิชาชีพ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ มีสิทธิเพิกถอนรายชื่อออกจากบัญชีผู้ได้รับรางวัลหรือเรียกรางวัลคืน แล้วแต่กรณี
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th และสอบถามได้ที่ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ กลุ่มยกย่องวิชาชีพ โทร. 0 2282 3153
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ksp.or.th/ksp2018/2022/01/35574/