นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา เพราะในฐานะสภาการศึกษาจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์งานการศึกษา เพื่อสะท้อนภาพมุมมองการศึกษาในทุกมิติ ซึ่งล่าสุดตนได้หยิบงานวิจัยเรื่องการพัฒนากำลังคนในศตวรรษที่ 21 ด้านเศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์ พบว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคนในประเทศไทยที่ประกอบ 10 อาชีพจะหายไป เช่น การตลาด บัญชี เป็นต้น แต่จะแจ้งเกิด 10 อาชีพใหม่ที่เป็นความต้องการของตลาดไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล กลุ่มงานเชี่ยวชาญด้านบิ๊กดาต้า กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ดังนั้น การจัดการศึกษา เพื่อการผลิตและพัฒนาคนตามช่วงวัยจึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่อาจมองข้ามได้ ยิ่งปัจจุบันโครงสร้างประชากรของโลกเปลี่ยนไป รวมทั้งทักษะที่จำเป็นก็ต้องปรับไปด้วย เรื่องของการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่วัย ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สกศ.จึงได้วางทักษะการพัฒนากำลังคนในองค์ที่เพิ่งมีและตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนโครงการเด็กไทย 2025 เพื่อเศรษฐกิจไทยขึ้น ซึ่งตนได้หารือเรื่องนี้กับนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งโครงการเด็กไทย 2025 เพื่อเศรษฐกิจไทย จะเป็นการเรียนที่เน้นโลก การของการทำงานที่สถานประกอบการต้องการ โดยจะนำไปเชื่อมโยงกับหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพื่อเตรียมคนในปี 2025 นอกจากนี้จะเชิญเสาหลักเศรษฐกิจไทย นักลงทุนต่างประเทศ มาร่วมคิกออฟโครงการนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้เราได้ค้นพบว่าต่อจากนี้ไปสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะต้องเตรียมผู้เรียนแบบไหนอย่างไรบ้าง เนื่องจากเด็กทุกช่วงชั้นจะต้องมีอาชีพติดตัวให้เหมาะสมกับวัย เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กในการมีอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ตัวเอง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564