ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"รัชชัยย์" เสนอแนวทางการลดโทษหรืองดโทษข้าราชการครู คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอล


ข่าวการศึกษา 2 พ.ย. 2564 เวลา 06:49 น. เปิดอ่าน : 6,673 ครั้ง
Advertisement

"รัชชัยย์" เสนอแนวทางการลดโทษหรืองดโทษข้าราชการครู คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอล

Advertisement

นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหาแนวทางลดโทษหรืองดโทษกรณีที่ข้าราชการครูฯ เกี่ยวข้องกับคดีการก่อสร้างสนามฟุตซอล ดังนี้
 
เรื่อง แนวทางการลดโทษหรืองดโทษข้าราชการครู คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอล
กราบเรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีคำสั่งลงโทษไล่ข้าราชการครูออกจากราชการจำนวน ๖๕ ราย เนื่องจาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดว่าบรรดาข้าราชการครูเหล่านั้นทุจริตต่อหน้าที่ราชการในเรื่องการก่อสร้างสนามฟุตซอล นั้น ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทยได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดแล้วเห็นว่าสังคมต่างรับรู้ดีว่าข้าราชการครูที่ถูกลงโทษไล่ออกดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นเหยื่อฝ่ายการเมือง ข้อเท็จจริงจากการสอบสวนไม่ปรากฏว่าข้าราชการครูที่ถูกไล่ออกได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ใดๆแต่อย่างใด ถ้าจะผิดวินัยไปบ้างก็คงจะเป็นเรื่องบกพร่องต่อหน้าที่เท่านั้น อย่างไรก็ตามในทางกฎหมายเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลว่าข้าราชการครูทุกรายดังกล่าวต่างกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่แล้ว ส่วนราชการต้นสังกัดก็จำต้องลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการครูเหล่านั้น ชมรมฯรับทราบมาว่าผู้ถูกลงโทษต่างก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นว่าผู้ถูกลงโทษได้รับโทษหนักเกินกว่ากรณีความผิดก็อาจมีมติให้ลดโทษได้โดยอาศัยเหตุผลดังต่อไปนี้

​ข้อ ๑ มาตรา ๙๙ แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติไว้ว่า “เมื่อได้ดำเนินการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา ๙๘ แล้ว ถ้าฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำผิดวินัย ให้สั่งยุติเรื่อง ถ้าฟังได้ว่ากระทำผิดวินัย ให้ดำเนินการตามาตรา ๑๐๐ และในกรณีที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงต้องลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนผ่อนโทษ ห้ามมิให้ลดโทษต่ำกว่าปลดออก” จากประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวเห็นว่าผู้มีอำนาจพิจารณา สามารถที่จะลงโทษบรรดาผู้ถูกกล่าวหาในสถานโทษ “ปลดออกจากราชการ” ได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่ามีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดไว้มีสาระสำคัญว่าข้าราชการที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ให้ผู้มีอำนาจลงโทษ “ไล่ออก” สถานเดียว นั้น ชมรมฯขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยนิติรัฐ ซึ่งหมายถึงการบริหารปกครองประเทศซึ่งถือกฎหมายเป็นใหญ่ กรณีนี้เห็นว่ามติ ค.ร.ม.ไม่มีฐานะเป็นกฎหมายหรือแม้จะถือว่ามติ ค.ร.ม.ฉบับนี้เป็นกฎหมาย ก็เป็นกฎหมายลำดับรองซึ่งมีศักดิ์ทางกฎหมายต่ำกว่ากฎหมายระดับพระราชบัญญัติ เนื้อความของ มติ ค.ร.ม. ที่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงไม่สามารถนำไปใช้บังคับได้ ดังนั้น ผู้มีอำนาจจึงสามารถเปลี่ยนระดับโทษจากไล่ออกเป็น ปลดออก เพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อดำรงชีพในยุคการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID – 19 ต่อไป

​ข้อ ๒ ขอได้โปรดตรวจสอบว่าผู้ที่ลงนามสั่งลงโทษไล่ออกบรรดาข้าราชการดังกล่าว มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งลงโทษข้าราชการครูที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้หรือไม่ เป็นผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงมีอำนาจตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ ๑๙ หรือไม่ ถ้าไม่มีอำนาจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็มีอำนาจสั่งยกเลิกเพิกถอนคำสั่งลงโทษดังกล่าว และสั่งให้ผู้ถูกลงโทษกลับเข้ารับราชการ แล้วส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจสั่งลงโทษพิจารณาใหม่โดยผู้มีอำนาจพิจารณาที่แท้จริงอาจสั่งให้ลงโทษในสถานโทษ ปลดออก ได้และจะเป็นคุณกับผู้ถูกกล่าวหา

​เรื่องความสามารถเปลี่ยนแปลงระดับโทษได้หรือไม่ นั้น ศาลปกครองสูงสุด เคยวางหลักไว้ว่า “คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีผลผูกพันองค์กรที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงฐานความผิดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัยและยุติแล้ว ให้เป็นประการอื่นได้ สิทธิของผู้ถูกกล่าวหาในการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยจึงถูกจำกัดว่าจะอุทธรณ์ได้เฉพาะดุลพินิจในการสั่งลงโทษผู้บังคับบัญชา เท่านั้น”(คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ ฟ ๒๐/๒๕๖๐) จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวจึงเห็นว่าผู้มีอำนาจสามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นลง “โทษปลด”ออกได้

ข้อ ๓ กรณีข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว นั้น ก.ค.ศ. ควรพิจารณาข้อกฎหมาย ดังนี้

๓.๑ ถ้ามีการกล่าวหาข้าราชการรายนั้นก่อนเกษียณอายุราชการต้องสั่งลงโทษภายในสามปี นับแต่ข้าราชการรายนั้นเกษียณอายุราชการ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงว่าข้าราชการรายใดเกษียณอายุราชการไปแล้วเกินกว่า ๓ ปี ผู้มีอำนาจก็ไม่สามารถสั่งลงโทษทางวินัยใดๆได้ ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา ๑๐๒ แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๒

๓.๒ ถ้ามีการกล่าวหาข้าราชการรายใดหลังจากที่ข้าราชการรายนั้นออกจากราชการแล้ว ต้องเริ่มทำการสอบสวนภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่ข้าราชการรายนั้นออกจากราชการ และต้องสั่งลงโทษภายในสามปีนับแต่วันที่ข้าราชการรายนั้นเกษียณอายุราชการ กรณีนี้จึงต้องตรวจสอบดูว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเมื่อวันที่เท่าใด หากมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน หลังจากวันที่ข้าราชการรายนั้นเกษียณอายุราชการแล้วเกินกว่า ๑ ปี หรือถ้าไม่มีคำสั่งลงโทษภายใน ๓ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นออกจากราชการ ก็ไม่สามารถลงโทษทางวินัยใดๆได้ ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา ๑๐๒ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๒ และเป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่วางหลักไว้ (เรื่องเสร็จที่ ๑๓๖๔)

จากข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้นจึงเห็นว่าเป็นช่องทางที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสามารถหยิบยกมาพิจารณาเพื่อช่วยเหลือบรรดาข้าราชการครูที่มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยเมื่อ สพฐ.จัดสรรงบประมาณจัดทำสนามฟุตซอล ก็รับไว้เพื่อประโยชน์ของเด็กๆในชนบท หากจะทำผิดพลาดบ้างก็เป็นเรื่องของความไม่เข้าใจระเบียบแต่ขาดเจตนาทุจริต หากการพิจารณามีผลเป็นอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น ก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่มีโรงเรียนใดต้องการงบประมาณจากส่วนกลางอีก อันจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติ ต่อไป

ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย จึงขอความเมตตาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ ประธาน ก.ค.ศ.ขอได้โปรดอาศัยช่องทางข้อกฎหมายดังที่ ชมรมฯได้กราบเรียนข้างต้นเป็นประโยชน์ในการพิจารณาลดโทษหรืองดโทษ บรรดาผู้ถูกกล่าวหาเพื่อเป็นคุณูปการต่อวงการการศึกษาไทยต่อไป


ขอแสดงความนับถือ

(นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ)
ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย
โทร ๐๘๓-๒๖๕๒๖๙๓

 


"รัชชัยย์" เสนอแนวทางการลดโทษหรืองดโทษข้าราชการครู คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลรัชชัยย์เสนอแนวทางการลดโทษหรืองดโทษข้าราชการครูคดีการก่อสร้างสนามฟุตซอล

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 12,957 ☕ 31 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 862 ☕ 5 พ.ย. 2567

แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 759 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
เปิดอ่าน 403 ☕ 4 พ.ย. 2567

ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
เปิดอ่าน 451 ☕ 4 พ.ย. 2567

การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 510 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
เปิดอ่าน 4,890 ☕ 2 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ
ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ
เปิดอ่าน 36,370 ครั้ง

การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
เปิดอ่าน 27,175 ครั้ง

ข้อเสียของการดื่มน้ำเย็นจัด
ข้อเสียของการดื่มน้ำเย็นจัด
เปิดอ่าน 19,312 ครั้ง

ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 8,934 ครั้ง

Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
เปิดอ่าน 10,959 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ