นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือถึงการปรับการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ว่า ในวันที่ 8 กันยายนนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะแถลงข่าวเรื่องการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งตนต้องการให้การเรียนวิชาดังกล่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพราะจากนี้ไปการเรียนวิชาประวัติศาสตร์จะไม่ใช่การเรียนเพื่อท่องจำ แต่ต้องการให้นักเรียนได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์แล้วคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ โดยการเดินหน้าปรับการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์นี้จะนำร่องในโรงเรียน 349 แห่งก่อน หลังจากนั้นจะดำเนินการให้คลอบคลุมในโรงเรียนทุกแห่งต่อไป สำหรับการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนวิชาประวัติศาสตร์นั้นจะมีเนื้อหาการเรียนด้วยสื่อการสอนที่ทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมการสอนในห้องเรียน เพื่อให้เด็กเกิดความสนุกและทำให้รู้สึกว่าการเรียนวิชานี้ไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้จะมีการอบรมกระบวนการสอนวิชาประวัติศาสตร์รูปแบบใหม่ให้แก่ครูผู้สอนด้วย
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า การเดินหน้าการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่อยากให้การเรียนการสอนวิชาดังกล่าวปรับเปลี่ยนจากการเรียนการสอนรูปแบบเดิมๆ เพราะวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้จำกัดการเรียนเฉพาะเรื่องสู้รบอย่างเดียว แต่เป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นและชุมชนของตัวเองได้ว่ามีความเป็นอย่างมาไร อีกทั้งที่ผ่านมาวิชาประวัติศาสตร์จะถูกสอนในวิชาสังคมศึกษา หมวดหน้าที่พลเมือง ดังนั้นการแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาเป็นวิชาหนึ่งนั้นจะส่งผลให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจมากขึ้น
"อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ศธ.เราจะทำหลักสูตรข้อมูลของการเรียนประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องให้กับระบบการศึกษา และกระบวนการเรียนการสอนต้องมีความน่าสนใจ เพราะไม่อยากให้การเรียนประวัติศาสตร์เรียนไปเพื่อท่องจำและนำไปสอบเท่านั้น แต่อยากให้เด็กได้คิดวิเคราะห์เป็นระบบจากการเรียนวิชานี้ด้วย"
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2564