นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (ประธาน กมว.) กล่าวภายหลังการประชุม กมว. ด่วนนัดพิเศษ เรื่องการสอบวิชาเอกของผู้ขอรับใบประกอบวิชาชีพครู ว่า ที่ประชุม กมว. มีมติเอกฉันท์ ว่า เห็นชอบในหลักการต้องสอบวิชาเอก ดังนั้น กมว. จึงขอเสนอให้คณะกรรมการคุรุสภา มีการทบทวนมติที่ยกเลิกการสอบวิชาเอก เพราะมีปัญหาการปฏิบัติให้เป็นการเลื่อนสอบวิชาเอกไปในเดือนมีนาคม 2565 ให้ผู้ที่จะสอบวิชาเอกครั้งที่ 2 ที่เรียนหลักสูตรหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) ไปสอบวิชาเอกในปีหน้าพร้อมกับผู้เรียนหลักสูตรปริญญาตรี คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 4 ปีหรือ 5 ปี ที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 และให้ใช้ช่วงเวลานี้ไปดำเนินการทบทวนปรับปรุงผังข้อสอบ รายวิชาเอก ที่ต้องสอบให้แยกวิชาชัดเจน ไม่รวมแบบบางวิชาที่ผ่านมา ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มีมติให้ คณบดี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณบดี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒรายวิชา 2 สถาบันเป็นหลักในการปรับปรุงพัฒนาแก้ไขผังข้อสอบ การสอบวิชาเอกที่เป็นวิชาการศึกษาพื้นฐาน ส่วนด้านวิชาเอกด้านอาชีวศึกษา ขอให้คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมฯ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เข้ามาช่วยในการยกร่างปรับปรุงแก้ไข รายวิชา ผังข้อสอบวิชาเอก หากสถาบันคุณวุฒิแห่งชาติมีการทดสอบแล้วก็อาจจะนำผลการทดสอบเป็นการผ่านวิชาเอกได้
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนมติเอกฉันท์ที่ยืนยันหลักการต้องสอบวิชาเอกนี้ คาดว่าจะดำเนินการทบทวนการสอบวิชาเอก ปรับผังข้อสอบวิชาเอก แยกวิชาให้ชัดเจน ไม่ให้เกิดปัญหาแบบที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นก็จะดำเนินการเชิญคณาจารย์สถาบันผลิตครูให้เข้ามามีส่วนร่วมรับรู้เพิ่มเติมปรับแก้ไขตามความจำเป็น ต่อไปและสามารถดำเนินการจัดจ้าง สทศ.พัฒนาออกข้อสอบให้ทันการทดสอบต่อไป
"อย่างไรก็ตามการเลื่อนการทดสอบวิชาเอกออกไปแทนการยกเลิกทดสอบวิชาเอก ยังคงหลักการสากลที่ต้องมีการทดสอบวิชาเอก เพื่อสร้างความมั่นใจให้สังคมว่าครูทุกคนมีความรู้ความสามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ และเป็นการใช้งบประมาณที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งเพราะใช้งบประมาณครั้งเดียวสามารถจัดสอบวิชาเอกได้พร้อมกันทั้งหลักสูตร ป.บัณฑิต และหลักสูตร ป.ตรี" นายเอกชัยกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564