รมว.ศึกษาธิการ ถก ผู้บริหาร ศธ. ปรับการวัดและประเมินผลการเรียนออนไลน์ เน้นตัวชี้วัดในสิ่งที่เด็กจำเป็นต้องรู้ พร้อม สั่งครูลดการบ้านนักเรียน หลังพบเด็กเครียดจากการเรียนออนไลน์
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการบริหารจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งมีข้อสรุปว่าจะปรับการวัดและประเมินผลให้เหมาะสมกับสถานการณ์การจัดการเรียนการสอนท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 โดยจะมีการปรับตัวชี้วัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เหลือแต่เฉพาะแต่สิ่งที่นักเรียนจำเป็นต้องรู้ตามตัวชี้วัดของหลักสูตร ส่วนกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่จำเป็นในตอนนี้ที่ต้องมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากให้งดไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลูกเสือและกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งจะต้องยกเลิกกิจกรรมเหล่านี้ นอกจากนี้ครูยังต้องปรับลดการให้การบ้านนักเรียนให้น้อยลงด้วย เนื่องจากเด็กมีความเครียดจากการเรียนออนไลน์อยู่แล้ว รวมถึงการเรียนออนไลน์จะต้องมีการยืดหยุ่นเรื่องของเวลาเรียนให้มากขึ้น ซึ่งอาจไม่จำเป็นจะต้องเข้มงวดเวลาเข้าเรียนมากนัก ทั้งนี้ครูผู้สอนจะต้องงดเรื่องการสอนเนื้อหาวิชาการลงแต่เน้นการปฏิบัติของเด็กให้มากขึ้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานในเรื่องนี้นั้น โรงเรียนจะต้องไปหารือกับครูผู้สอน พร้อมจัดสรรตารางเวลาการสอนต่อสัปดาห์ให้เหมาะสมไม่ใช่ต่างคนต่างทำ นอกจากนี้จะมีปรับการประเมินครูที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.นี้ให้สอดคล้องกับวิธีการสอนในยุคปัจจุบันมากขึ้น รวมถึงจะมีการกับสภาคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในการปรับแก้หลักเกณฑ์การฝึกสอนของนักศึกษาครู เพราะสถานการณ์โควิดส่งผลให้นักศึกษาครูไม่สามารถฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่โรงเรียนได้จึงปรับให้นักศึกษาครูมาช่วยสอนเด็กในชุมชนในอัตราส่วนนักศึกษาครู 1 คนต่อเด็ก 10 คน อย่างไรก็ตามในเร็วๆ นี้ ศธ.จะออกแนวปฏิบัติมาตรฐานกลางการวัดและประเมินผลเรื่องที่เด็กจำเป็นต้องรู้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้โรงเรียนนำไปปรับการจัดการเรียนการสอนให้เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่ต่อไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564