ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

“เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.)” บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำ กรณีศึกษา “ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ”


ข่าวการศึกษา 26 พ.ค. 2564 เวลา 06:21 น. เปิดอ่าน : 5,231 ครั้ง
“เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.)” บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำ กรณีศึกษา “ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ”

Advertisement

“เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.)”
บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำ กรณีศึกษา “ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ”

เมื่อไรก็ตามที่ได้ทราบข่าวว่าจะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..... เข้าสู่การพิจารณาของผู้มีอำนาจไม่ว่าจะในขั้นตอนใด พวกเราครูไทยก็จะใส่ใจที่จะขอรู้ขอทราบว่าเป็นร่างกฎหมายของใครหน่วยงานใดเป็นผู้ร่าง เพราะพวกเราเคยผิดหวัง ตกใจ กังวลใจกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....มาแล้ว เนื่องเพราะร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ฉบับที่ร่างโดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) นั้น เป็นร่างกฎหมายที่มีสาระสำคัญหลายประการที่เป็นการด้อยค่าผู้ประกอบวิชาชีพครู ลดทอนสิทธิประโยชน์ของครู แม้ว่ามีบางส่วนที่เป็นสิ่งดีดีบ้างก็ตาม เมื่อพวกเราตรวจพบก็ได้แสดงพลังต่อสู้ คัดค้านจนร่างกฎหมายดังกล่าวไปต่อไม่ได้

รศ.ดร.สุรวาท ทองบุ อดีตประธานสภาคณบดี คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ แห่งประเทศไทย และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญชวนพวกเราหลายคนไปร่วมกันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....โดยให้ถือว่าเป็นร่างกฎหมายการศึกษาฉบับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พวกเราพิจารณาแล้วเห็นว่าการร่างกฎหมายการศึกษาที่นำทีมโดย รศ.ดร.สุรวาท ทองบุ นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการวิเคราะห์ปัญหาการศึกษาไทยว่ามีปัญหาอะไรและต้นเหตุของปัญหาเกิดจากอะไร พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ที่ใช้บังคับในปัจจุบันนั้น เป็นต้นเหตุของปัญหาสำคัญอะไรหรือไม่อย่างไร พวกเราหลายคนเห็นว่าหลักคิดในการร่างกฎหมายการศึกษานี้มีความเหมาะสม ถูกต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ  

ผู้นำทีมในการร่างกฎหมายนี้ก็เป็นอาจารย์ผู้สอนและเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามาครึ่งค่อนชีวิต ที่สำคัญคือมีการนำเอา พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ มาเป็นรากฐานในการปรับปรุงและไม่มุ่งหวังผลใดๆในทางการเมือง พวกเราหลายคนจึงได้ไปเป็นคณะทำงานร่างกฎหมายให้กับ รศ.ดร.สุรวาท ทองบุ

ในระหว่างดำเนินการนั้น มีกลุ่มบุคคลอีกคณะหนึ่งคือ สมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย (สคคท) ได้ประสานขอร่างกฎหมายที่พวกเราช่วยกันทำจนแล้วเสร็จ เพื่อจะนำไปประกอบการพิจารณาผสมผสานกับร่างกฎหมายที่มีการเรียกขานว่าเป็นร่างกฎหมายภาคประชาชน เพื่อเสนอต่อผู้มีอำนาจพิจารณาเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรากฎหมาย พวกเราเห็นรายชื่อสมาชิกที่สำคัญของ สคคท ซึ่งประกอบไปด้วย ดร.ดิเรก พรสีมา เป็นประธาน และยังมีกลุ่มบุคคลที่เป็นคนสำคัญในบางองค์กรและเคยเป็นครูมาก่อนร่วมอยู่ด้วย พวกเราก็วางใจจัดส่งร่างกฎหมายที่พวกเราช่วยกันทำเสร็จแล้วให้คณะดังกล่าวไป

ต่อมาได้ทราบว่า ร่างกฎหมายที่เรียกขานกันว่าร่างกฎหมายภาคประชาชนที่ผลักดันโดย สคคท เป็นร่างกฎหมายที่หยิบยกเอาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ....ที่ร่างโดย กอปศ มาเป็นต้นแบบ พวกเราก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้มีสาระสำคัญหลายประการที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติในอนาคตและยังเป็นร่างกฎหมายที่ทำให้วิชาชีพครูด้อยค่า ต่อมาได้มีการเสนอร่างกฎหมายการศึกษาฉบับของ สคคท เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีร่างกฎหมายของรัฐบาลประกบเข้าไปด้วย

มาถึงตรงนี้พวกเราได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พวกเราบางคนได้รับเชิญให้ไปรับรู้รับฟัง สิ่งที่พวกเรารับรู้คือร่างกฎหมายที่เสนอโดย สคคท นั้นได้พยายามแก้ไขให้คงคำสำคัญที่พวกเรากังวลคือให้ใช้คำว่า “ผู้บริหารสถานศึกษา” ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” ซึ่งถือว่าทุกท่านทำหน้าที่ได้ดีแล้วแต่ก็พ่ายแพ้ต่อนักกฎหมายคนสำคัญของกฤษฎีกา ที่พยายามจูงใจให้ใช้คำว่า “หัวหน้าสถานศึกษา” โดยให้เหตุผลว่า หากอยากใช้คำว่า “ผู้อำนวยการสถานศึกษา” ก็ให้ไปใส่ในกฎหมายลูก ให้ใช้ “ใบรับรองการประกอบวิชาชีพครู” แทนคำว่า “ใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพครู”โดยให้เหตุผลว่าหากใช้ “ใบรับรองการประกอบวิชาชีพครู” ก็จะกำหนดให้ใช้ได้ตลอดชีพ ไม่ต้องเสียค่าต่อ่ใบอนุญาต ซึ่งเหตุผลที่ได้มานั้นไม่สามารถยอมรับได้

พวกเราทราบมาว่า ท่าน ดร.ดิเรก พรสีมา ได้พยายามต่อสู้ให้แก้ไขแต่ในที่สุดก็แพ้ทางนักกฎหมายผู้คร่ำหวอด โดยอ้างว่าให้รับๆไปก่อนแล้วค่อยไปแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ พวกเราที่เป็นผู้นำองค์กรหลายองค์กรได้มาปรารภถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต จึงได้ต่อสายคุยกันโดยมิได้นัดหมาย ในที่สุดผู้นำองค์กรหลักๆ ก็มีความเห็นตรงกันว่าหากปล่อยให้ร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาแล้วก็จะยากแก่การเยียวยา เพราะ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯฉบับที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีนั้น ได้มีการใช้ชั้นเชิงอย่างสูงของนักกฎหมายมือหนึ่งของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยการบัญญัติคำสำคัญว่า “ให้มีใบรับรองการประกอบวิชาชีพครู” ไว้ในหลักการเหตุผลของการร่างกฎหมายนี้ ซึ่งหากมีการผ่านร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณา ก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกเพราะเมื่อมีการรับหลักการแล้วก็จะไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ ทำได้เพียงแค่การอภิปรายแล้วโหวต ซึ่งในที่สุดก็ต้องแพ้เสียงของรัฐบาลเพราะเป็นร่างกฎหมายของรัฐบาล

ด้วยความกังวลใจ พวกเราจึงตกลงรวมกลุ่มกันตั้งองค์กรใหม่ขี้นมาชื่อว่า “เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย” หรือ (คอท) องค์กรนี้พวกเราผลัดกันเป็นผู้นำองค์กรแบบวันต่อวันแล้วแต่ว่าจะมีภารกิจใดเข้ามา ในที่สุดพวกเราก็แจ้งปัญหานี้ให้องค์กรต่างๆทั่วประเทศได้ทราบถึงปัญหาและร่วมมือกันแสดงพลังผลักดันให้มีการถอนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯฉบับนี้ออกมาทำการแก้ไขปรับปรุงคำสำคัญและความสำคัญเสียก่อนแล้วจึงค่อยเสนอเข้าไปใหม่

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ สคคท กลับยืนหยัดต่อสู้ที่จะให้ร่างกฎหมายนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาแล้วค่อยไปแปรญัตติแก้ไขในภายหลัง เรื่องราวจึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่าง คอท ที่เรียกร้องให้  “ถอนร่างกฎหมายนี้ออกมาแก้ไขให้เป็นไปตามที่พวกเราต้องการก่อนแล้วจึงค่อยส่งเข้าไปพิจารณาในรัฐสภา” กับ ฝ่าย สคคท ซึ่งพยายามผลักดันให้ “ร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาก่อนแล้วจึงค่อยปรับปรุงแก้ไข”

ในที่สุดพลังของครูทั้งประเทศที่ได้แสดงเหตุผลและกดดันจนรัฐบาลยอมให้มีการถอนกฎหมายนี้ออกมาแล้วส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา แก้ไขให้เป็นไปตามที่ คอท เรียกร้อง สิ่งที่น่าเสียดายและเสียใจคือแกนนำของ สคคท บางคนมุ่งเพียงการแพ้ชนะถึงขั้นไปออกสื่อต่างๆ ทั้งในทางสังคมออนไลน์ ทางการสัมมนาออนไลน์ ในทำนองสนับสนุนให้ใช้คำว่า “ใบรับรองการประกอบวิชาชีพครู” “หัวหน้าสถานศึกษา” และสนับสนุนการยกเลิกคำว่า “วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง” ทั้งๆที่คำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้วิชาชีพครูด้อยค่าและทำให้สูญเสียสวัสดิการที่สำคัญ

เรื่องนี้จึงมี  “บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำ” ว่า

- เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต้องศึกษาให้ถ่องแท้ 
- ความเห็นต่างไม่ใช่ความขัดแย้งจนถึงขั้นหาวิธีการที่จะเอาชนะโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของส่วนรวม
- พลังของครูถ้ารวมกันติดจะมีมากกว่าแปดแสนคน และสามารถชี้นำผู้มีอำนาจให้คิดและทำเพื่อประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองด้านการศึกษาได้ ขอเพียงจับมือกันให้แน่น
- พระเอกนางเอกของเรื่องนี้คือ “ผู้ประกอบวิชาชีพครู” ทุกท่าน 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ


“เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.)” บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำ กรณีศึกษา “ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ”“เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย(ค.อ.ท.)”บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการจดจำกรณีศึกษา“ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ”

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 9/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ว 9/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 3,910 ☕ 4 พ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล
เปิดอ่าน 115 ☕ 10 พ.ค. 2567

ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 578 ☕ 9 พ.ค. 2567

กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง
เปิดอ่าน 845 ☕ 9 พ.ค. 2567

ว 12/2567 วิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ผ่านระบบการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (SCS) สังกัด สพฐ.
ว 12/2567 วิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ผ่านระบบการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (SCS) สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 549 ☕ 9 พ.ค. 2567

ว 11/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ.
ว 11/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 1,904 ☕ 9 พ.ค. 2567

แนวทางการแต่งกายชุดเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ประจำปีการศึกษา 2567
แนวทางการแต่งกายชุดเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ประจำปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 15,438 ☕ 9 พ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
เปิดอ่าน 9,132 ครั้ง

บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
เปิดอ่าน 18,468 ครั้ง

วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
เปิดอ่าน 2,129 ครั้ง

สรุปสูตรไฮเพอร์โบลามุมฉาก
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลามุมฉาก
เปิดอ่าน 42,359 ครั้ง

วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด
เปิดอ่าน 22,830 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ