นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้สรุป 7 นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ ความปลอดภัยของผู้เรียน หลักสูตรฐานสมรรถนะ ฐานข้อมูลบิ๊กดาต้า ขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางอาชีวศึกษา พัฒนาทักษะทางอาชีพ การศึกษาตลอดชีวิต และการจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนต้องการให้เกิดผลสำเร็จภายในระยะเวลา 3-5 เดือน โดยตนได้มอบหมายให้องค์กรหลักของ ศธ.แต่ละหน่วยงานไปจัดทำรายละเอียดข้อมูลอย่างรอบด้าน รวมถึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามนโยบายทั้ง 7 เรื่องขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตนมองอาจจะไม่จำเป็นต้องมีคณะทำงานถึง 7 ชุด เพราะมีนโยบายบางเรื่องที่คล้ายกัน จึงสามารถใช้คณะทำงานติดตามชุดเดียวกันได้ เช่น เรื่องขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) และการพัฒนาทักษะทางอาชีพ เป็นต้น
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ สำหรับการจัดตั้งศูนย์บัญชาการของศธ.นั้น จะมีสำนักงานปลัด ศธ.เป็นผู้รับผิดชอบหลัก พร้อมมีตัวแทนจากองค์กรหลัก ศธ.ต่างๆ ซึ่งจะเป็นเหมือนศูนย์ข้อมูลในการทำหน้าที่ดูแลงานของทุกองค์กรหลัก ศธ.ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการเรียนการสอนทั้ง 5 รูปแบบ ได้แก่ OnSite Online On Air On Demand และ On Hand เพราะการศึกษาในช่วงโควิดถือเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยทีต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งศูนย์ดังกล่าวยังทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล ปัญหา และอุปสรรคในการเรียนการสอนของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง และการเก็บข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564