ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"ตรีนุช" ทำความเข้าใจกับครูทั่วประเทศ 11 พ.ค.ประเด็นเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม 1มิ.ย.


ข่าวการศึกษา 7 พ.ค. 2564 เวลา 13:56 น. เปิดอ่าน : 8,176 ครั้ง
Advertisement

"ตรีนุช" ทำความเข้าใจกับครูทั่วประเทศ  11 พ.ค.ประเด็นเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม 1มิ.ย.

Advertisement

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักศธ.ถึงการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ในวันที่ 1 มิถุนายนว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนจากกำหนดการเดิมในวันที่ 17 พฤษภาคมเป็นวันที่ 1 มิถุนายนนั้น ซึ่งทำให้นักเรียนมีช่วงระยะเวลาว่าง 11 วันก่อนการเปิดภาคเรียน ดังนั้นตนจึงคิดว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่อยากจะเติมเต็มการเรียนรู้ของนักเรียนแม้โรงเรียนหยุดแต่การเรียนของเด็กต้องไม่หยุดการเรียน ดังนั้นที่ประชุมจึงมีข้อสรุปว่าจะแบ่งการเตรียมความพร้อมช่วงเวลา 11 วันของนักเรียน แยกเป็นการเรียนรู้ในช่วงวันดังกล่าว 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกิจกรรมแบบออนไลน์ โดยเป็นการเรียนรู้ของกลุ่มเด็กที่มีความพร้อมในการเข้าถึงสื่อออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ และ กลุ่มกิจกรรมแบบออฟไลน์ สำหรับกลุ่มนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน ศธ.ได้ร่วมจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละช่วงวัย

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนกิจกรรมออไลน์จะมีคลังสื่อการเรียนรู้ต่างๆแขวนไว้บนเว็บไซต์ของศธ. โดยส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนสื่อการเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขณะที่กลุ่มกิจกรรมออฟไลน์ มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทำหน้าที่ออกแบบกิจกรรมร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับจังหวัด เพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การฝึกทักษะอาชีพ หรือการเรียนรู้เรื่องการออมเงินของเด็กแต่ละคน เป็นต้น อย่างไรก็ตามกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไม่ได้เป็นการบังคับว่าโรงเรียนจะต้องทำทุกแห่ง เพราะเรายังต้องคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนด้วย อย่างไรก็ตาม ตนจะมีการแถลงข่าวเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้

ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะทำภาระกิจให้เชื่อมโยงกับนโยบายของรมว.ศธ. คือ ช่วงแรกการเตรียมความพร้อมของครูเรื่องอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน เพื่อให้การเปิดภาคเรียนไปแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่เกิดความเครียด เนื่องจากเรามีบทเรียนมาแล้ว 1 ปีพบว่าการจัดการเรียนการสอนผ่านออนไลน์เด็กยังไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียนที่ดีพอ แต่ปีนี้เราจะสำรวจความพร้อมของเด็กแต่ละคนว่ามีความพร้อมสำหรับการเรียนในรูปแบบไหนได้บ้าง โดยเบื้องต้นจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 50 เด็กต้องการมาเรียนที่โรงเรียน และเป็นพื้นที่สีขาว ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นครูผู้สอนจะเป็นผู้จัดการเรียนการสอนให้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพเด็ก นอกจากนี้จะลดกระแสความกังวลของผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจว่าสาเหตุใดถึงต้องมาเปิดเรียนในวันที่ 1 มิถุนายน โดยสพฐ.ได้เตรียมกิจกรรมเสริมทักษะอาชีพเป็นหน่วยการเรียนอย่างหลากหลายให้แก่นักเรียนในช่วง 11 วันก่อนเปิดภาคเรียน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักเรียน พร้อมประกาศให้เขตพื้นที่เป็นศูนย์การรับนักเรียนสำหรับเด็กที่พลาดจากการสอบเข้าโรงเรียนดังและยังไม่มีที่เรียน โดยเขตพื้นที่จะจัดลำดับโรงเรียนที่ว่างไว้ให้ ซึ่งยืนยันว่าเด็กมีที่เรียนทุกคนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ในวันที่ 11 พฤษภาคมรมว.ศธ.จะชี้แจงทำความใจให้แก่ครูทั่วประเทศได้รับทราบนโยบายการเปิดภาคเรียนด้วย


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 

'ตรีนุช'ทำความเข้าใจกับครูทั่วประเทศ วางแผนให้เด็กเรียนรู้ก่อนเปิดภาคเรียน

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงการเตรียมความพร้อมรับเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ว่า ภายหลังจากที่ ศธ. ประกาศเลื่อนการเปิดเทอม จากวันที่ 17 พ.ค. ออกไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย.2564 ศธ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เตรียมความพร้อมรับเปิดเทอมไว้เป็น 2 ช่วง โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 17 พ.ค.-1 มิ.ย. เป็นช่วงเวลาที่เด็กยังไม่ได้ไปโรงเรียน ศธ.มีความเป็นห่วงผู้ปกครองที่อาจจะกังวลว่าในช่วงนั้นลูกหลานอาจจะต้องมีกิจกรรมอะไรทำ ประกอบกับศธ.คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของเด็ก ๆ เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์ในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังไม่ปกติ ดังนั้น ขบวนการเรียนรู้จึงต้องเปลี่ยนแปลงไป

รมว.ศธ. กล่าวว่า ในวันนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าในช่วง 11 วัน ระหว่างวันที่ 17 พ.ค.-1 มิ.ย. จะมีกิจกรรมให้กับนักเรียน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ๆแรก เป็นกลุ่มออนไลน์ สำหรับเด็กที่มีความพร้อมและสามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้ ส่วนกลุ่ม 2 ไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้(ออฟไลน์) ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารองค์กรหลัก ได้รวมตัวกันที่จะจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้ โดยทุกหน่วยงานจะจัดส่งข้อมูลกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและช่วงชั้นของนักเรียนมาไว้ในเวบกลาง เพื่อเป็นข้อมูลสื่อสารหรือแหล่งองค์ความรู้และทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มเด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้ ก็ให้ผู้อำนวยการโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และศึกษาธิการจังหวัด สอบถามกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.)จังหวัด พิจารณาว่ากิจกรรมใดที่เด็กๆสามารถทำได้บ้าง ก็ให้ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมทางเลือกที่เหมาะสมให้กับนักเรียน ซึ่งขณะนี้ ศธ.ก็ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)ที่จะนำติวเตอร์ที่มีชื่อเสียง และผู้ที่มีชื่อเสียงทางการสอนศิลปะเข้ามาช่วยให้ความรู้กับเยาวชน ส่วนทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก็จะมาช่วยส่งเสริมความรู้ด้านอาชีพให้กับผู้ปกครองและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทั้งนี้ กิจกรรมที่จะจัดขึ้นให้เด็กทั้งกลุ่มออนไลน์และกลุ่มออฟไลน์ ศธ.ไม่ได้บังคับว่าทุกโรงเรียนจะต้องทำ เพราะศธ.คำนึงถึงความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่และการเข้าถึงเป็นสำคัญ

“อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ จะแถลงรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆนี้อีกครั้ง และในวันที่ 12 พ.ค. จะประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับครูทุกสังกัดทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางรองรับการเปิดเทอมด้วย” รมว.ศธ. กล่าว

ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่รู้ว่าเชื้อโควิดจะอยู่กับเราอีกนานแค่ไหน แต่เราต้องเตรียมความพร้อมโดยเป้าหมายคือผู้เรียนที่จะต้องได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ แต่เราจะทำอย่างไรให้เรียนอย่างปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจ และสังคมเกิดความเชื่อมั่นว่า ทางโรงเรียนจะสามรรถดูแลลูกหลานได้ โดย สพฐ.ได้เตรียมคุณครูให้สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือ และมีการสำรวจความพร้อมของนักเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความเคลียด เนื่องจาก 1 ปีที่ผ่านมาสพฐ.ได้รับบทเรียนว่าทางโรงเรียนจัดเรียนออนไลน์เหมือนกันทุกโรงเรียน แต่บางพื้นที่เด็กไม่พร้อมได้มีเครื่องมืออุปกรณ์ ดังนั้นในปีนี้ รมว.ศธ. ให้ สพฐ.จะสำรวจความพร้อมของนักเรียนเป็นที่ตั้งก่อนว่า เด็กแต่ละพื้นที่มีความพร้อมจะเรียนแบบใดบ้างใน 5 ช่องทาง ถ้าเรียนออนไซต์ได้ ก็ให้มาเรียนที่โรงเรียน ถ้าพร้อมเรียนออนไลน์ก็จะจัดให้เรียนออนไลน์ และจากข้อมูลการสำรวจ พบว่า 50% มีความต้องการเรียนที่โรงเรียน และเป็นพื้นที่สีขาว ส่วนพื้นที่ที่เรียนออนไซต์(เรียนที่โรงเรียน)ไม่ได้ ก็ดูว่าใครเรียนออนไลน์ได้ และใครเรียนออนแอร์ หรือถ้าใครเรียนออนไลน์ และออนแอร์ไม่ได้ก็ให้เรียนออนดีมานด์ หรือเรียนออนแฮนด์ ดังนั้นในแต่ละรูปแบบคุณครูก็จะจัดการเรียนให้ตามความเหมาะสม และวิธีการที่คุณครูเข้าถึงกับนักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนเป็นที่ตั้ง

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นกระแสความห่วงใยของผู้ปกครองของนักเรียนในช่วง 11 วันก่อนเปิดเทอม สพฐ.ก็จะเน้นให้นักเรียนได้มีกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต ทั้งผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเป็นทางเลือก โดยเน้นปลอดโรค ปลอดภัย เป็นหลัก นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าในวันที่ 1 มิ.ย.เป็นวันเปิดเทอม นักเรียนทุกคนจะมีที่เรียน ดังนั้น ภายหลังประกาศการรับนักเรียนแล้ว หากเด็กคนใดสอบไม่ได้ และยังไม่มีที่เรียน สพฐ.จึงเตรียมร้องรับโดยมอบให้เขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางเพื่อจัดหาที่เรียนให้กับนักเรียนทุกคนให้มีที่เรียน

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.)กล่าวว่า รมว.ศธ.ก็ได้มอบนโยบายให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ดำเนินการทั้งกลุ่มออนไลน์และกลุ่มออฟไลน์ ให้กับผู้เรียน และมอบหมายให้ สอศ. ไปดำเนินการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยทาง สอศ. จะดำเนินการในเรื่องการอบรมเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ ซึ่งในการประชุมวันที่ 11 พ.ค. นี้ ตนจะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564


"ตรีนุช" ทำความเข้าใจกับครูทั่วประเทศ 11 พ.ค.ประเด็นเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม 1มิ.ย.ตรีนุชทำความเข้าใจกับครูทั่วประเทศ11พ.ค.ประเด็นเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม1มิ.ย.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 14,403 ☕ 31 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 493 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 665 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 757 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,352 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,051 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 948 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง
สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง
เปิดอ่าน 26,019 ครั้ง

อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
เปิดอ่าน 80,842 ครั้ง

ผลศึกษาดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวันช่วยสยบโรคตับได้
ผลศึกษาดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวันช่วยสยบโรคตับได้
เปิดอ่าน 12,204 ครั้ง

ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
เปิดอ่าน 8,841 ครั้ง

กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
เปิดอ่าน 36,151 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ