รมว.ศธ.ถก ผู้บริหารองค์กรหลักฯ วางแผนให้เด็กเรียนรู้ก่อนเปิดภาคเรียน 1 มิ.ย. หลังต้องขยับปฏิทินเปิดเรียนจากกำหนดเดิม ห่วง 11 วันที่เหลืออยากให้เด็กเรียนรู้อย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.ถึงการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ในวันที่ 1 มิ.ย.ว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนจากกำหนดการเดิมในวันที่ 17 พ.ค.เป็นวันที่ 1 มิ.ย.นั้น ซึ่งทำให้นักเรียนมีช่วงระยะเวลาว่าง 11 วัน ก่อนการเปิดภาคเรียน ดังนั้นตนจึงคิดว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่อยากจะเติมเต็มการเรียนรู้ของนักเรียนแม้โรงเรียนหยุดแต่การเรียนของเด็กต้องไม่หยุดการเรียน ดังนั้นที่ประชุมจึงมีข้อสรุปว่าจะแบ่งการเตรียมความพร้อมช่วงเวลา 11 วันของนักเรียน แยกเป็นการเรียนรู้ในช่วงวันดังกล่าว 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกิจกรรมแบบออนไลน์ โดยเป็นการเรียนรู้ของกลุ่มเด็กที่มีความพร้อมในการเข้าถึงสื่อออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ และ กลุ่มกิจกรรมแบบออฟไลน์ สำหรับกลุ่มนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในศธ.ได้ร่วมจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละช่วงวัย
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนกิจกรรมออนไลน์จะมีคลังสื่อการเรียนรู้ต่างๆแขวนไว้บนเว็บไซต์ของ ศธ. โดยส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนสื่อการเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขณะที่กลุ่มกิจกรรมออฟไลน์ มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทำหน้าที่ออกแบบกิจกรรมร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับจังหวัด เพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การฝึกทักษะอาชีพ หรือการเรียนรู้เรื่องการออมเงินของเด็กแต่ละคน เป็นต้น อย่างไรก็ตามกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไม่ได้เป็นการบังคับว่าโรงเรียนจะต้องทำทุกแห่ง เพราะเรายังต้องคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนด้วย อย่างไรก็ตามตนจะมีการแถลงข่างเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค.นี้
ด้าน ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะทำภารกิจให้เชื่อมโยงกับนโยบายของ รมว.ศธ. คือ ช่วงแรกการเตรียมความพร้อมของครูเรื่องอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน เพื่อให้การเปิดภาคเรียนไปแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่เกิดความเครียด เนื่องจากเรามีบทเรียนมาแล้ว 1 ปีพบว่าการจัดการเรียนการสอนผ่านออนไลน์เด็กยังไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียนที่ดีพอ แต่ปีนี้เราจะสำรวจความพร้อมของเด็กแต่ละคนว่ามีความพร้อมสำหรับการเรียนในรูปแบบไหนได้บ้าง โดยเบื้องต้นจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 50 เด็กต้องการมาเรียนที่โรงเรียน และเป็นพื้นที่สีขาว ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นครูผู้สอนจะเป็นผู้จัดการเรียนการสอนให้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพเด็ก นอกจากนี้จะลดกระแสความกังวลของผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจว่าสาเหตุใดถึงต้องมาเปิดเรียนในวันที่ 1 มิ.ย. โดย สพฐ.ได้เตรียมกิจกรรมเสริมทักษะอาชีพเป็นหน่วยการเรียนอย่างหลากหลายให้แก่นักเรียนในช่วง 11 วันก่อนเปิดภาคเรียน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักเรียน พร้อมประกาศให้เขตพื้นที่เป็นศูนย์การรับนักเรียนสำหรับเด็กที่พลาดจากการสอบเข้าโรงเรียนดังและยังไม่มีที่เรียน โดยเขตพื้นที่จะจัดลำดับโรงเรียนที่ว่างไว้ให้ ซึ่งยืนยันว่าเด็กมีที่เรียนทุกคนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ในวันที่ 12 พ.ค. รมว.ศธ.จะชี้แจงทำความใจให้แก่ครูทั่วประเทศได้รับทราบนโยบายการเปิดภาคเรียนด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 2564