ปลัดศธ.ประชุมผู้ตรวจศธ.และศธจ.-ศธภ. กำชับหน่วยงานในพื้นที่ต้องทำงานอย่างโปร่งใส ชี้ นโยบายการศึกษาปฐมวัยต้องทำเป็นแผนบูรณการระดับจังหวัด
เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้ประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ผ่านโปรแกรม Zoom Meeting ร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวง ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั่วประเทศ ซึ่งมีประเด็นหารือถึงการตัดโอนงบประมาณประจำอัตรา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ไปกำหนดยังตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) สังกัดศธจ.
เนื่องจากปัจจุบัน ศธจ.มีอัตรากำลังไม่ครบตามโครงสร้างกรอบอัตรากำลัง เพราะเป็นตำแหน่งที่ไม่มีเงินประจำอัตรา จำนวน 2,087 อัตรา และมีอัตรากำลังในตำแหน่งศึกษานิเทศก์ว่างอยู่และมีเงินประจำอัตรา จำนวน 248 อัตรา ซึ่ง สป.ศธ.ได้มีประกาศรับย้ายและโอนจากหน่วยงานอื่นแล้ว แต่ก็ไม่มีผู้แสดงความประสงค์จึงทำให้การใช้จ่ายงบประมาณ งบบุคลากร ไม่มีการใช้จ่ายจำนวนมาก ดังนั้นตนจึงขอให้ ศธจ.พิจารณาจำนวนตำแหน่งศึกษานิเทศก์ภายในจังหวัดตัวเองว่า มีความจำเป็นต้องมีจำนวนเท่าไหร่ถึงจะสอดคล้องกับภาระงานในแต่ละจังหวัด โดยให้แต่ละจังหวัดแจ้งความประสงค์ว่าจะตัดโอนเงินประจำอัตราในตำแหน่งศึกษานิเทศก์ที่ว่างจำนวนเท่าใดไปกำหนดในตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในอัตรา 1 : 1
ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังหารือถึงนโยบายการศึกษาปฐมวัย ซึ่งอยากให้ศธจ.นำนโยบายการศึกษาปฐมวัยไปปฏิบัติควรเป็นลักษณะการสร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยในระดับจังหวัดร่วมกัน และเป็นแผนบูรณการการศึกษาปฐมวัยระดับจังหวัด เพื่อนำไปสู่การทำงานอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รอบ 6 เดือนระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 63 – 31 มี.ค. 64 พบว่าสามารถเบิกจ่ายภาพรวมของทุกงบรายจ่ายได้ร้อยละ 43.72 ซึ่งเป้าหมายกำหนดร้อยละ 54 ดังนั้นการเบิกจ่ายยังต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 10.28 ทั้งนี้ที่ประชุมขอให้การทำงานของศธจ.ขับเคลื่อนด้วยกลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส ความรับผิดชอบด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 13 เมษายน 2564