กก.ปฎิรูปการศึกษา ฝากการบ้าน ว่าที่รมว.ศธ.ยึดแนวพัฒนารูปแบบ Active Learning
นายศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้ว่างลง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาผู้ที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาดำรงเป็น รมว.ศธ. ก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร เพราะขณะนี้ นายวิษณุ เครืองงาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการศึกษา ได้มีการกำหนดแนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาในรูปแบบ Active Learning ไว้อย่างชัดเจนแล้ว ที่สำคัญแนวทางดังกล่าวสามารถตอบโจทย์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 258 จ.(4) ที่มุ่งเน้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ และพหุปัญญา คือความถนัดที่แตกต่างกันของผู้เรียน ทั้งยังตอบโจทย์แผนแม่บทภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ขานรับและนำแนวทางดังกล่าวไปนำร่องแล้ว
“ไม่ว่าใครจะเข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.ศธ. ผมอยากให้เดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาการศึกษาที่ นายวิษณุ ได้วางเอาไว้นี้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้ใหม่ให้เสียเวลา เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยจนตกผลึกแล้ว การปฏิรูปการศึกษาเรารอไม่ได้ ไม่ควรชักช้าเสียเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ประเทศมีการแพร่ระบาดโควิด19 เรายิ่งต้องเร่งรีบส่งเสริมและสร้างให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้"
นายศักดิ์สิน กล่าวอีกว่า หาก ศธ.เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กอย่างเร่งด่วน จริงจัง และต่อเนื่อง ต่อไปเราจะได้เห็นเด็กประถมศึกษาตอนต้นสามารถสร้างกระบวนการและสร้างความรู้ได้เอง ขณะที่เด็กประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนต้นต้องสามารถนำความรู้ไปยกระดับคุณภาพชีวิตได้เอง และเข้าถึงนวัตกรรม สามารถขายไอเดียและโปรเจคงานได้ด้วยตัวเอง ส่วนเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายจะต้องได้เรียนรู้แบบปฏิบัติการเชิงวิจัย เด็กสามารถวิจัยในสถานศึกษา หรือในชุมชนได้ โดยไม่ต้องรอไปถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม และประเทศชาติได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564