เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ดร.ปรีดา บุญเพลิง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ในคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาและแนวทางบริหารจัดการหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ทางคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเพื่อนครูในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มบุคคลรวมกลุ่มตั้งเป็นกองทุนอิสระสวัสดิการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นการตั้งองค์กรขึ้นมานอกระบบไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทางกองทุนดังกล่าวได้เชิญชวนให้เพื่อนครูสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกและนำเงินไปร่วมลงทุนกับทางกองทุนฯ ซึ่งขณะนี้กำลังแพร่ระบาดไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ร้องเกรงว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว จะสร้างปัญหาด้านการเงิน การออมทรัพย์ และภาระหนี้สินให้เกิดขึ้นกับครูได้ เนื่องจากมีรูปแบบคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ และขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานหลักในการเข้าไปตรวจสอบดูแล
ดร.ปรีดา กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ให้ครอบคลุมทั้งระบบ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับบรรดาเพื่อนครู ทางคณะอนุกรรมาธิการฯจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ประกอบด้วย ตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อธิบดีกรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และนายกสภาทนายความ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้เชิญครูที่ได้รับความเดือดร้อนมาให้ข้อมูล พร้อมมอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าแต่ละหน่วยงานที่เข้าประชุมในครั้งนี้จะเข้าไปติดตามตรวจสอบ และกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เช่น พม.เข้าไปตรวจสอบดูว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ขณะที่ สตช.และดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และสภาทนายความ จะเข้ามาช่วยเรื่องคดีความให้กับครูที่ได้รับความเสียหาย เป็นต้น นอกจากนี้ ทางอนุกรรมาธิการฯจะได้สรุปรายงานมติที่ประชุมเสนอไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับทราบถึงการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐ วันที่ 6 มีนาคม 2564