‘ครูตั้น’ เล็งปรับหลักสูตรประวัติศาสตร์ให้น่าสนใจภูมิใจแก่ผู้เรียน เชื่อประวัติศาสตร์ท้องถิ่น -ภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถพัฒนาผู้เรียนสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าในท้องถิ่นตนเองเพื่อดึงคนไปท่องเที่ยว
22 กุมภาพันธ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์ ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการปรับหลักสูตรการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพราะตนมองว่าการเสนอและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของไทยต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยจะต้องนำเสนอให้มีความน่าสนใจและทำให้ผู้เรียนซึมซับความภูมิใจในความเป็นไทย การปรับหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์จะผสมผสานกับแผนบูรณาการการศึกษา ที่ศธ.ได้ทำเตรียมเอาไว้
โดยให้โรงเรียนคุณภาพชุมชน นำความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเข้ามาให้ความรู้กับผู้เรียน แม้จะเป็นเสี้ยวหนึ่งของการบูรณาการการศึกษา แต่ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะในอนาคตเรื่องที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น จะสามารถทำให้ผู้เรียนพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าในท้องถิ่นของตนได้ ดังนั้น ศธ.จะต้องวางรากฐานเรื่องเหล่านี้ให้มีความเข้มแข็งไว้ตั้งแต่วันนี้
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์ จะทำงานร่วมกับฝ่ายวิชาการของ สพฐ. และคณะทำงานปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ตั้งขึ้นมาจะได้หารือร่วมกันว่าจะมีวิธีการปรับหลักสูตรการเรียนประวิตศาสตร์นี้อย่างไร และสามารถ ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้อย่างไร ส่วนครูจะต้องพัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละจังหวัดด้วย และถ้า ศธ.สามารถบูรณาการจัดระบบองค์ความรู้ของแต่ละจังหวัดได้ จะช่วยให้ครูเข้าใจประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นได้ ส่วนวิธีการนำเสนอและวิธีการสอนประวัติศาสตร์ ตนเชื่อว่าครูสามารถปรับเปลี่ยนการสอนให้น่าสนใจได้อยู่แล้ว
"ผมอยากให้เด็กได้ซึมซับประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์มีเสน่ห์หลายอย่าง ไม่ใช่การสู้รบเพียงอย่างเดียว และต่อไปประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ ศธ.จะต้องโปรโมทอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ให้เหมือนกับที่เราไปเที่ยวประเทศอื่น ก็เพราะมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ วันนี้ก็มีการเรียนประวัติศาสตร์อยู่ แต่อาจจะยังเข้มข้น และไม่มีแรงจูงใจทำให้คนมาเที่ยวได้มากพอ แต่หากเราสามารถยกระดับความสวยงามของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นทั่วประเทศได้อย่างแท้จริงผ่านกระบวนการการศึกษาได้ ในอนาคตก็น่าจะสามารถต่อยอดช่วยประเทศได้เป็นอย่างดี" นายณัฏฐพล กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564