รมว.ศึกษาธิการ รายงานการปิดโรงเรียนในพื้นที่เสียงให้ครม.รับทราบ เผย นายกฯกำชับให้ศธ.จัดการเรียนการสอนช่วงวิกฤติโควิดระลอกใหม่อย่างเหมาะสม หลังเจอเสียงสะท้อนครูกังวลการนับชั่วโมงเรียน จึงให้ใบงานเด็กทำเยอะจนเกินไป
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนได้รายงานการดำเนินการการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งได้มีการปิดสถานศึกษาไปแล้วกว่า 4,000 แห่งในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินการการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ให้เรียบร้อย และขอให้แยกแยะความต้องการของโรงเรียนต่างๆ เพราะโรงเรียนมีขนาดแตกต่างกัน ดังนั้น จะต้องจัดการเรียนการสอนให้มีความเหมาะสมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ รวมถึงเด็กจะต้องไม่ตกหล่นในการเรียนรู้แม้จะเกิดวิกฤติโรคระบาด
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเรื่องการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ให้มีการผสมผสานระหว่างการเรียนออนไลน์กับการให้ใบงาน โดยโรงเรียนไหนที่ไม่มีความในเรื่องการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ก็สามารถแจกใบงานให้เด็กทำได้ แต่ขณะนี้มีเสียงสะท้อนจากผู้เรียนว่าครูผู้สอนกังวลการจัดการเรียนการสอนที่จะไม่ครบชั่วโมงเรียนจึงต้องมอบใบงานหรือการบ้านให้เด็กมากจนเกินไปส่งผลให้เด็กมีความเครียด
ดังนั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการโรงเรียนไปบริหารจัดการเรื่องการมอบการบ้านให้นักเรียนระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เกิดความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เด็กเครียดจนเกินไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ศธ.ยังสามารถรับมือได้อยู่จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนการปิดภาคเรียนที่ 2/2563
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564