"อรรถพล" เผย จากปัญหาโรงเรียนสารสารสน์วิเทศราชพฤกษ์ พบ การบริหารงานโรงเรียนเอกชนยังต้องปรับปรุงแก้ไข จี้ โรงเรียนเอกชนตั้งรองผู้อำนวยการ ดันครูมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเกิน 5 ปีทำตั๋วผู้บริหาร ช่วยแก้ปัญหาภายใน
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าการบริหารงานของโรงเรียนเอกชนยังมีจุดที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเมื่อเกิดปัญหาที่ต้องมีผู้บริหารระดับสูงคอยตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนโรงเรียนกลับไม่สามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนติดภารกิจต้องไปปฏิบัติงานภายนอก ไม่อยู่ที่โรงเรียน จะหาคนที่ตัดสินใจแทนก็ไม่มีเนื่องจากโรงเรียนเอกชนไม่มีรองผู้อำนวยการโรงเรียนเหมือนกับโรงเรียนของรัฐ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงได้สั่งการให้โรงเรียนเอกชนทุกแห่งทำการแต่งตั้งรองผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ และช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนบริหารงานภายในโรงเรียน เวลามีปัญหาเร่งด่วนจะได้มีผู้บริหารโรงเรียนคอยตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที
“โรงเรียนเอกชนจะแตกต่างจากโรงเรียนรัฐ โดยในส่วนของโรงเรียนรัฐการจะแต่งตั้งรองผู้อำนวยการโรงเรียนจะต้องขึ้นอยู่กับการกำหนดตำแหน่ง และจำนวนเด็ก สำหรับโรงเรียนเอกชนไม่ว่าจะมีขนาดไหนก็สามารถแต่งตั้งรองผู้อำนวยการโรงเรียนได้ แต่ที่ผ่านมาที่โรงเรียนไม่ตั้งรองผู้อำนวยการโรงเรียน โดยให้เหตุผลว่าเพราะครูในโรงเรียนไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ดังนั้น สช.จึงแจ้งให้ทางโรงเรียนแก้ปัญหาโดยการขอหนังสืออนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาให้กับครูที่มีใบประกอบวิชาชีพครูมาไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือหากคนใดไม่ถึง 5 ปี แต่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงเรียนให้ทำหน้าที่ดูแลงานด้านการบริหาร หัวหน้าฝ่าย หัวหน้าแผนกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ก็สามารถได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาเป็นการชั่วคราวตามกติกาที่คุรุสภากำหนดได้ เมื่อได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษามาแล้วโรงเรียนก็สามารถตั้งคนเหล่านี้เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งจะตั้งกี่คนก็ได้ ทั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยให้การบริหารงานโรงเรียนเอกชนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น"เลขาธิการ กช. กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563