นายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (เลขาฯ กศน.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มอบนโยบายการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้แก่ กศน.จังหวัด รับไปดำเนินการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะข้อสั่งการของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ย้ำให้ กศน.ต้องมีบทบาทสำคัญช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพื่อให้ผู้ที่ขาดโอกาสทางการเรียนรู้ได้เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น อีกทั้งนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ก็ได้มอบแนวทางการฝึกอาชีพต่างๆให้แก่ประชาชน เช่น โครงการ 1 อำเภอ 1 อาชีพด้วยการยกระดับสินค้าของชุมชนให้มีคุณภาพ เป็นต้น
นายวรัท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีการปรับหลักสูตร กศน.ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะขณะนี้หลักสูตรการเรียน กศน.มีจำนวนวิชาเลือกมาก อีกทั้งผู้เรียนของ กศน.บางส่วนก็ไม่สะดวกกับการมาเรียนแบบพบกลุ่ม รวมถึงหลักสูตรที่กำลังจะปรับปรุงใหม่จะต้องเชื่อมโยงกับการเรียนต่อระดับอุดมศึกษาด้วย โดยเบื้องต้นจะทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ใช้เครดิตแบงค์ หรือธนาคารหน่วยกิต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เรียน กศน.มากขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงระบบสารสนเทศของ กศน.ทั้งระบบให้มีความทันสมัย และใช้เชื่อมโยงกับศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) เนื่องจาก กศน.มีข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก ดังนั้นเรื่องนี้จะเป็นความท้าทายของตนที่จะปรับโฉม กศน.ให้เป็นยุคข้อมูลไอที 4.0 ซึ่งหากต้องการข้อมูลใดเกี่ยวกับงานกศน.สามารถคลิกได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวเท่านั้น
“จากนี้ กศน.จะต้องทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและประชาชนมากขึ้น เพราะเรามีหน่วยงานในพื้นที่อยู่ในมือแล้ว เราจะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการเก็บเด็กตกหล่นที่อยู่นอกระบบการศึกษา และการทำให้ผู้พิการมีอาชีพและช่องทางการเรียนรู้มากขึ้น รวมถึงได้ชู “โคกหนองนาโมเดล” ให้ กศน.จังหวัดเรียนรู้และนำไปเป็นต้นแบบขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ เนื่องจากโมเดลดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการน้ำด้วยการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9”เลขาฯ กศน. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563