นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่า ตนได้ชี้แจงนโยบายเรื่องการยกระดับการศึกษาจังหวัดด้วยการควบรวมโรงเรียนให้ที่ประชุม กพฐ.รับทราบถึงวิธีการและขั้นตอนการปฏิบัติงาน ว่า จะมีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เพราะอยากให้ กพฐ.เห็นภาพการขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างชัดเจน ซึ่งตนได้ยกตัวอย่างจังหวัดภูเก็ตและสมุทรสงครามที่มีการปูพื้นฐานไว้เบื้องต้นที่จะนำร่องการควบรวมโรงเรียน ซึ่งหลังจากนี้จะไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) โดยนำโมเดลของจังหวัดภูเก็ตและสมุทรสงครามมาทำให้เห็น โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะรับนโยบายนี้ไปดำเนินการสร้างโมเดลให้ครบทุกจังหวัดต่อไป เพราะตนอยากทำให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อจะได้มีการวางแผนงบประมาณสำหรับปี 2565 และจัดทำแผนการยกระดับคุณภาพของจังหวัดด้วยการศึกษาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ทั้งนี้ตนคาดหวังว่าการดำเนินการครั้งนี้เราจะก้าวข้ามความกังวลในเรื่องต่างๆ และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากพื้นที่ เพราะบริบทของแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน ดังนั้นตนอยากให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เด็กจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
“หากเรายกระดับรายได้ของจังหวัดด้วยการศึกษาได้จะส่งผลให้เราใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าด้วย รวมถึงตอบโจทย์การเป็นอยู่อาศัยของครู และแนวทางการใช้สถานที่เพื่อผู้สูงอายุ เป็นองค์ประกอบตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่ประชุมมีข้อห่วงใยถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ว่าจะมีมการบูรณการการทำงานร่วมกันในพื้นที่ได้หรือไม่ ซึ่งผมย้ำว่าไม่ต้องกังวลในฐานะที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นแม่งานหลักเราสามารถนำแผนงานและข้อมูลมาร่วมกันวิเคราะห์ได้ เพราะเราเริ่มต้นจากการนำร่องสร้างเป็นโมเดลให้จังหวัดอื่นๆได้เห็นก่อน เชื่อมั่นในอนาคตภาคเอกชนจะเห็นโรดแมปความสำเร็จของการยกระดับคุณภาพจังหวัดในครั้งนี้อย่างแน่นอน” รมว.ศธ. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563