ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมการจัดทำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่งมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน มีนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมประชุมที่ประชุมได้หารือเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรฐานสมรรถนะที่มีการปรับใช้นำร่องมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าหลักสูตรฐานสมรรถนะที่มีการนำร่องใช้เรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 นั้น หลักสูตรดังกล่าวจะสามารถนำมาใช้เรียนในระดับชั้นอื่นๆได้จริงหรือไม่ ดังนั้นคณะทำงานปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงมีข้อสรุปว่าให้นำทั้งหลักสูตรฐานสมรรถนะและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มากองรวมและเขย่าผสมผสานปรับเนื้อหาการเรียนรู้ใหม่ โดยแบ่งการเรียนรู้ของเด็กแต่ละช่วงชั้น
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า สำหรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานรูปแบบใหม่นั้น จะเป็นการปรับหลักสูตรใน 8 กลุ่มสาระวิชาหลักจากหลักสูตรเดิมมาอัปเดตใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น วิชาสังคมศึกษาเนื้อหาประวัติศาสตร์ไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2474-2500 บางช่วงบางตอนขาดหายไป จึงทำให้เด็กไม่ได้เรียนรู้การพัฒนาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในแต่ละยุคสมัยจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นหลักสูตรใหม่จะเติมเนื้อหาที่ขาดหายเหล่านี้ รวมถึงวิชาวิทยาศาสตร์ก็จะปรับให้เป็นการเรียนพื้นฐานวิชาวิทยาศาสตร์เบื้องต้นผสมผสานกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ รวมถึงหลักสูตรใหม่จะไม่เน้นการท่องจำแต่จะสร้างบทเรียนให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการพิจารณาได้ช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐ วันที่ 26 ตุลาคม 2563