นายเอกชัย กี่สุขพันธุ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุม กมว. ได้เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับแนวทางปรับปรุงประสิทธิภาพของหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป.บัณฑิต) ที่ทางคณะอนุกรรมการปรับปรุงประสิทธิภาพของป.บัณฑิต เสนอ โดยแนวทางดังกล่าว จะให้สถาบันผลิตครูที่จะเปิดสอนหลักสูตรนี้ นำวิชาครู ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (มคอ.) 2 โดยตัดในส่วนของหน่วยกิตที่เกี่ยวข้องกับการฝึกปฏิบัติการสอน จำนวน 12 หน่วยกิตออกไป ดังนั้นจะเหลือวิชาที่ต้องเรียนเพียง 21 หน่วยกิต พร้อมทั้งบริหารจัดการวิชาอีก 9 หน่วยกิตที่เหลือ โดยให้มหาวิทยาลัยนำจุดเด่นของตัวเองมาทำเป็นวิชาเสริม เช่น มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีความเชี่ยวชาญเรื่องหลักสูตรการสอนเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ (LD) เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้หลักสูตรแตกต่างกันตามบริบทของมหาวิทยาลัย แต่ยังคงเรียนวิชาครูที่ยึดตาม มคอ. 2 อยู่ และผู้ที่เรียนในหลักสูตรใหม่นี้จะเรียนประมาณ 30 หน่วยกิต ทั้งนี้เมื่อผู้เรียนเข้ารับการศึกษาจบหลักสูตรดังกล่าวแล้ว จะต้องเข้ารับการทดสอบเมื่อสอบผ่านก็จะได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพครู สามารถนำไปใช้ในสมัครเป็นครูได้ และเมื่อสอนตามวิชาเอกระยะเวลาครบตามที่หลักสูตรฯ กำหนด ก็จะมีอาจารย์จากหลักสูตรฯ มาประเมิน และได้ใบรับรองมาใช้ในการทดสอบในส่วนของวิชาเอกต่อไป เมื่อสอบผ่านครบแล้วจึงจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า จากนี้ทางสำนักมาตรฐานวิชาชีพ สังกัดสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ก็จะดำเนินการจัดทำรายละเอียด เพื่อเสนอให้ที่ประชุม กมว.พิจารณาในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเข้าเรียนในหลักสูตรใหม่นี้ ผู้ที่สามารถเข้าเรียนได้จะมีทั้งสิ้น 4 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มครูที่สอนหนังสือแต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
2.กลุ่มผู้ที่จบสาขาอื่นแต่ต้องการเป็นครู
3.กลุ่มนักศึกษาสาขาอื่นที่ไม่ใช่ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
4.กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ต้องการเก็บเป็นเครดิตแบงค์
ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่มหาวิทยาลัยไม่ได้เปิดหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในระดับปริญญาตรี แต่ก็มีการเปิดหลักสูตร ป.บัณฑิต เพราะหลักสูตรนี้จะเปิดได้เฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีการเปิดสอนหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ อีกทั้งนี้ยังจะช่วยแก้ปัญหาผู้ที่เรียน ป.บัณฑิต จบแล้วได้ไปฝึกสอนไม่ตรงกับวิชาเอกที่เรียนมา หรือเรียนจบแล้วแต่ไม่ที่ฝึกสอนด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 21 กันยายน 2563