ครม.ไฟเขียว"สุภัทร"ปลัดศธ.โยก"อำนาจ"ไปสกศ.
"ณัฏฐพล" เผย มติครม.อนุมัติ ปรับใหญ่ “สุภัทร” ปลัดศธ. โยก “อำนาจ” ไปสกศ. ดัน ”อัมพร” นั่งเลขาธิการสพฐ. ขณะที่ “สุเทพ”ผงาดอาชีวะ ชี้ ไม่ได้ลงโทษใคร หน่วยงานในศธ.สำคัญเท่ากันหมด
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.ได้มีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนและทดแทนตำแหน่งผู้ที่ครองตำแหน่งอยู่เดิมจะเกษียณอายุราชการ จำนวน 4 ราย ดังนี้
1.นายสุภัทร จำปาทอง ตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2.นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา
3.นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4.นายสุเทพ แก่งสันเที๊ยะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 เป็นต้นไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การโยกย้ายดังกล่าวเป็นการโยกสลับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม และความเปลี่ยนแปลงภายในศธ.ซึ่งต้องรอดูผลงานของทุกคนต่อไป ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่าการแต่งตั้งผู้บริหารระดับ 11 ของทุกกระทรวงให้ถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีที่จะผลักดันให้ผลงานแต่ละคนเกิดขึ้นให้ได้ ดังนั้นการขับเคลื่อนปฎิรูปการศึกษาของศธ.จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ เช่น การจัดทำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้า การทำเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นต้น
“การโยกนายอำนาจไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสกศ.นั้น ผมไม่ได้อยากให้มองว่ามีความผิดอะไร เพราะทุกหน่วยงานในศธ.มีความสำคัญเท่ากันหมด โดยผมพิจารณาจากความสามารถตามความถนัดของแต่ละคน รวมถึงความเข้มข้นในการผลักดันนโยบาย ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของศธ.นั้น จากนี้จะมาดูว่าในหน่วยงานที่มีผู้บริหารรับผิดชอบแล้วจะมาดูต่อว่าความเหมาะสมในการทำงานด้วยกันเป็นทีมจะดำเนินการร่วมกันอย่างไร เนื่องจากผมเน้นการทำงานที่เชื่อมโยงของทุกหน่วยงานใน ศธ.ให้เป็นหนึ่ง เพื่อที่เราจะเดินหน้าให้เห็นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้ได้ โดยผมต้องการสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นใน ศธ. เช่น การเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพที่เป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล ซึ่ง สพฐ.และ สอศ.จะต้องร่วมเดินหน้าการทำงานในส่วนนี้ด้วยกัน” นายณัฏฐพล กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 8 กันยายน 2563
ข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 กันยายน 2563
วันนี้ (8 กันยายน 2563) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี มีสาระสำคัญเรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) ดังนี้
21. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการ ประเภทบริหารระดับสูง เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่ผู้ครองตำแหน่งอยู่เดิมจะเกษียณอายุราชการ จำนวน 4 ราย ดังนี้
1. นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
2. นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
3. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
4. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป
ที่มาเนื้อหาและอ่านเพิ่มเติมได้จาก สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 กันยายน 2563