รมว.ศธ.เผย ป.ป.ช.ส่งรายชื่อข้าราชการเกี่ยวข้องทุจริตโครงการฟุตซอลมาให้ศธ.พิจารณาลงโทษทางวินัย ประมาณ 90 ราย
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบการดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หลังจากมีผู้ร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส ซึ่งล่าสุด ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการดังกล่าว กว่า 90 รายนั้น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าว่า เบื้องต้นทราบว่า ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องการชี้มูลความผิดข้าราชการทีเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการดังกล่าวมายังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบมีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องและถูกชี้มูลความผิด ประมาณ 90 ราย ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จริง และต้องมีการลงโทษตามที่ป.ป.ช.ชี้มูล เช่น เมื่อชี้มูลความผิดว่าให้ไล่ออก ศธ.จะไปลดโทษเหลือแค่ปลดออกก็คงไม่ได้ เป็นต้น เพราะเรื่องการทุจริตตนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกับปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน โดยจะต้องจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการกพฐ.กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบจำนวนของผู้ที่ถูกกล่าวโทษว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่เรื่องดังกล่าวน่าจะอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการที่จะพิจารณาโทษว่าจะดำเนินการตามที่ป.ป.ช.ชี้มูลมาหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ป.ป.ช.ชี้มูลมาอย่างไรก็จะดำเนินการตามนั้น โดยหลังจากที่คณะอนุกรรมการฯชี้มูลเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดของข้าราชการรายนั้นๆ เพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป
เลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้จะต้องมีการดำเนินการตามที่ป.ป.ช.ชี้มูลอย่างเคร่งครัด เพราะหากไม่ดำเนินการตนในฐานะที่กำกับดูแลข้าราชการที่เกี่ยวข้องก็จะถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ผู้ประสานมายังตนขอให้หากทางช่วยเหลือกลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตโดยตรงแต่ถูกตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับนั้น ตนก็อยากช่วยเต็มที่แต่เนื่องจากกฎระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องระบุชัดเจนว่าการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด เมื่อใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องว่าไปตามนั้น บางครั้งตนก็รู้สึกลำบากใจที่จะต้องลงนามเพื่อลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา และบางคนก็มีความคุ้นเคนสนิมสนมกัน ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรตนก็คงต้องดำเนินการตามที่ป.ป.ช.ชี้มูลมา
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วัน อังคารที่ 8 กันยายน 2563