นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงการเปิดเรียนแบบ Onsite 100% ยกเลิกการสลับวันมาเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีสถานศึกษาในสังกัด ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อจัดทำข้อมูลเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในการเปิดเรียนแบบ Onsite 100%โดยที่ไม่ต้องสลับวันเรียน ซึ่ง ศบค. มอบหมายให้ ศธ.จัดทำข้อมูลเสนอมาว่า พื้นที่ใดบ้างที่มีความพร้อมและมีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ และขณะได้เสนอข้อมูลสรุปทั้งหมดให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เพื่อเตรียมเสนอให้ที่ประชุมศบค.ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักการในเบื้องต้นที่ สพฐ.เสนอไป คือ โรงเรียนสังกัดสพฐ.จำนวน 4,500 แห่ง จะขอเปิดเรียนแบบ Onsite 100% โดยจะยึดตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงโรงเรียนต้องจัดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือภายในสถานศึกษาทุกจุด และการวัดไข้ก่อนเข้าเรียนด้วย ขณะเดียวกันกิจกรรมในโรงเรียนกิจกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสร่างกาย ก็ขอให้โรงเรียนงดกิจกรรมเหล่านั้นเอาไว้ก่อน ส่วนมาตรการรองรับหากพบเด็กติดเชื้อโควิดเกิดขึ้นเราจะยึดแนวปฏิบัติจาก ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมถึงตนขอกำชับโรงเรียนทุกแห่งต้องให้นักเรียนสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้ง เพื่อทราบเส้นทางการเดินทางของนักเรียนด้วย ทั้งนี้อาจมีโรงเรียนบางแห่งที่มีนักเรียนไม่มีความพร้อมอุปกรณ์ในการสแกนก็ให้ครูจดบันทึกแทน
“ส่วนประเด็นที่ ศบค.อยากให้มีการปรับปรุงเรื่องสอบและการวัดและประเมินผลจากสถานการณ์โควิด เพราะเด็กต้องเรียนออนไลน์ และสลับวันเรียนทำให้การเรียนการสอนอาจไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยเรื่องนี้สพฐ.มีความเข้าใจเป็นอย่างดี และขอชี้แจงว่าการประเมินและวัดผลไม่ได้ใช่เป็นการทำข้อสอบเท่านั้น แต่ยังมีการวัดและประเมินผลหลายด้านทั้งการเรียนในห้องเรียน และการทำแบบฝึกหัด ซึ่งก็ขอให้มั่นใจได้ว่าการวัดและประเมินผลในสถานการณ์นี้จะมีคุณภาพอย่างแน่นอน”เลขาฯ กพฐ. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 5 สิงหาคม 2563