เมื่อเราทุกคนได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้เราทุกคนต่างต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่การใช้ชีวิตแบบ New-normal แต่นั่นไม่ควรเป็นข้ออ้างในการหยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง แน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ดิจิตอลก็เข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตคนไทยอย่างเห็นได้ชัด เพราะการมุ่งเน้น พัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ชีวิตยุคดิจิตอลอย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้การติดต่อสื่อสารเปิดกว้างขึ้น ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษก็เป็นสิ่งที่หลาย ๆคนให้ความสำคัญ แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสทางด้านการศึกษาที่เท่ากัน ดังนั้น สำหรับคนที่มีกำลังน้อยแต่อยากเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เรามี 5 ทางเลือกดี ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้แถมเข้ากันได้ดีกับยุค New-normal นี้ด้วย
1. เรียนจาก YouTube channel
แน่นอนว่าสมัยนี้อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ง่าย แทบจะทุกคนมีสมาร์ทโฟนและรู้จักที่จะใช้มันได้ดี คุณสามารถหาและติดตามช่อง YouTube ที่ทำคอนเท้นท์เกี่ยวกับภาษาอังกฤษได้ไม่ยาก มีทั้งแบบหลักสูตรต่อเนื่องนำมาสอนให้ฟรี ๆ และแบบการสอนที่หยิบยกหัวข้อที่น่าสนใจขึ้นมาพูด ไม่ว่าจะแบบไหน ก็
เป็นการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบไม่ต้องเสียค่าเรียนแถมเรียนคนเดียวได้ไม่ต้องไปอยู่ใกล้ใคร
2. เรียนจากการฟังเพลง
รสนิยมทางด้านการฟังเพลงของคนเราไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าทุกคนชอบที่จะฟังเพลง ลองหาเพลงภาษาอังกฤษในทำนองที่คุณชอบ จะฟังออกไม่ออก ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ควรฟังทุกวันเพื่อให้คุ้นเคยกับเสียงของภาษา และถ้าคุณสามารถหาเนื้อร้องแล้วดูตามไปด้วยขณะฟัง ก็จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการฟังและเรียนรู้คำศัพท์ไปพร้อมกัน
3. เรียนจากการดูหนังหรือดูซีรี่
หาหนังหรือซีรี่ที่คุณชอบ ลองนั่งดูเป็นเสียงภาษาอังกฤษแล้วเปิดซับภาษาอังกฤษแล้วอ่านตาม แรก ๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกภาษาอังกฤษ อาจจะรู้สึกว่าดูไม่รู้เรื่อง แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ ไม่มีใครเก่งภาษาอังกฤษจากการดูหนังแค่เรื่องเดียว
4. เรียนจากการพูดคุยกับชาวต่างชาติออนไลน์
ทุกวันนี้มี platform ต่าง ๆ มากมายที่ทำให้การหาเพื่อนใหม่บนโลกออนไลน์นั้นทำได้ง่ายขึ้น ข้อนี้อาจไม่เหมาะกับคนขี้อาย แต่เชื่อว่าถ้าคุณได้ใช้ภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติบ่อย ๆ คุณจะเรียนรู้จากประโยคที่พวกเขาใช้ แรก ๆ คุณอาจจะต้องใช้ตัวช่วยในการแปล แต่เมื่อคุณเริ่มเห็นคำศัพท์นั้นบ่อย ๆ คุณจะจำได้และรู้ว่าต้องใช้ยังไง
5. เรียนจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือสอนหลักแกรมมาภาษาอังกฤษเสมอไป เริ่มจากหนังสือนิทานเด็กภาษาอังกฤษง่าย ๆ ก็ได้ ถ้าอ่านเจอคำศัพท์ไหนที่ไม่เข้าใจ ก็ให้ใช้ดิกชันนารีช่วย หรือ ดาวน์โหลดแอพ Google translate มาไว้ในมือถือก็เป็นประโยชน์ดี เพราะใช้ง่ายและสามารถหาความหมายของคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว