นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อความเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ และอ้างถึงการเบิกค่ารักษาพยาบาลโดยใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการว่า “ข่าวใหม่ ที่มนุษย์เงินเดือนภาครัฐ น่าจะรับทราบและเตรียมตัวเตรียมใจรับมือ 1) ค่ารักษาพยาบาลจะเบิกได้เพียงบางส่วน (ราว 65 %) ที่เหลือต้องชำระเพิ่มเอง หลวงไม่ช่วยแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก็คือ เศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ การใช่จ่ายเท่าที่จำเป็นจริง ๆ (จริง ๆ น่ะ..เพราะเราเริ่มเข้าสู่ยุคเผาจริงแล้ว) เก็บเงินไว้ให้มากที่สุดและนานที่สุด เพื่อไม่ต้องเป็นหนี้โดยใช่เหตุ 2) แนวโน้มยากจะคาดเดา แต่การที่รัฐต้องเจียดงบประมาณและกู้เงินมาช่วยวิกฤตโควิดและฟื้นฟูเศรษฐกิจตามโครงการต่าง ๆ เป็นเงินมหาศาล จนนักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นการยากที่กรมสรรพกรจะจัดเก็บรายได้เข้าคลังตามเป้าและจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ได้ 3) เมื่อถึงจุดทางตัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะทุกวันนี้ งบเงินเดือนข้าราชการมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นทุกปี ด้วยเหตุผลนี้ ข้าราชการควรเตรียมตัวรับสภาพ โดยเฉพาะข้าราชการที่มีรายรับจากเงินเดือน เพียงอย่างเดียว” ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือน และก่อให้เกิดความตื่นตระหนก นั้น
“กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล เกี่ยวกับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ขอชี้แจงว่า ข้อความข้างต้นไม่เป็นความจริง สิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวยังคงได้รับสิทธิเช่นเดิม และขอเตือนให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าว หากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องสิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลางจะแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสาร
จากช่องทางต่าง ๆ ของกรมบัญชีกลางเท่านั้น” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว
ที่มา ข่าวกรมบัญชีกลาง ฉบับที่ 81/2563 วันที่ 3 กรกฎาคม 2563