Advertisement
-A-Z เคล็ดลับสุดยอดไดเอ็ด Marie Claire - หัวใจสำคัญของสุขภาพดีและการลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้นอยู่ที่การเลือกวิธีกินอาหารและออกกำลังกายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบของตัวเองมากที่สุด วันนี้แมรี แคลร์จะมาเผยสารพัดเทรนด์ไดเอ็ตสุดฮอตจากทั่วทุกมุมโลกไล่เรียงตั้งแต่ A-Z มาให้ผู้อ่านได้เลือกกันอย่างจุใจ ...
วิธีลดน้ำหนักเหล่านี้มีทั้งสูตรเด็ดฉบับเซเล็บฮอลลีวู้ด อาหารไดเอ็ตจากประเทศต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีและยาแผนใหม่จากทุกมุมโลก ลองไปดูกันเลย
A : Abs Diet Power 12
นี่คือวิธีการลดน้ำหนักจากเดวิดจิงก์เชนโก แห่งนิตยสาร Men's Health ที่เชื่อว่าการลดน้ำหนักไม่ได้หมายถึงการลดปริมาณอาหาร ตรงกันข้ามคุณต้องกินมากขึ้นโดยใช้เทคนิคเลือกอาหารที่ทำให้รู้สึกอิ่ม 6 ข้อดังนี้
กินวันละ 6 มื้อเล็กๆ การกินบ่อยๆ ทำให้ไม่รู้สึกหิวมากจนลืมตัวกินแหลกในมื้อต่อไป วิธีนี้ทำให้คุมน้ำหนักง่ายขึ้น
เทคนิค Abs Diet Power 12 หมายถึงการเลือกกินอาหารที่ช่วยเสริมระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น 12 ชนิด อันได้แก่ อัลมอนด์ (Almond) ถั่ว (Beans) ผักขม (Spinach) ผลิตภัณฑ์จากนม (Dairy) ข้าวโอ๊ตกึ่งสำเร็จรูป (Instant oat meal) ไข่ (Eggs) ไก่งวง(Turkey) เนยถั่ว (Peanut butter) น้ำมันมะกอก (Olive oil) ขนมปังโฮลวีต (Whole wheat) โปรตีนผง (Extra protein) ราสพ์เบอร์รี่ (Raspberry) หรือผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ ซึ่งหากนำตัวอักษรนำของชื่อภาษาอังกฤษมาเรียงต่อกันจะได้คำว่า Abs Diet Power พอดี อาหาร 12 ชนิดนี้จะช่วยเสริมระบบเผาผลาญอาหารให้ทำงานได้ดี
ดื่มน้ำผลไม้เป็นประจำทำให้ไม่รู้สึกหิวและช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและวิตามินต่างๆ ได้ดี
สูตรนี้ไม่เน้นการคำนวณแคลอรีที่ยุ่งเหยิงกินได้ตามใจ แค่เลือกอาหารให้ถูกชนิดเท่านั้น
กฎเหล็กคือดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ดื่มได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 3 แก้ว
เทคนิคนี้มีมื้อปล่อยผีหนึ่งมื้อที่ให้คุณกินอาหารอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงไขมันและกฎด้านบน
สนใจหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.Absdiet.com
B : Ballet Diet
รูปร่างอันงดงามของซาร่าห์ เจสสิก้า ปาร์กเกอร์ เจ้าแม่แห่ง Sex and the City และสาวสวยในตำแหน่งอย่าง ออเดรย์ เฮปเบิร์น ได้มาจากการเต้นบัลเลต์ตั้งแต่วัยเยาว์ การเต้นบัลเลต์ทำให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กล้ามเนื้อต้นขาส่วนใน และกล้ามเนื้อแขนส่วนหลัง ทำให้รูปร่างสมส่วนสง่างามหลังตรงขึ้น เรียวขาเฟิร์มกระชับ บุคลิกภาพดีขึ้น แถมท่วงท่าการเคลื่อนไหวขณะเต้นยังช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดีเยี่ยม
C : Chocolate Diet
ส่วนผสมหลักของช็อกโกแลตก็คือ ผงโกโก้สุดขมที่มักโดนคนทั้งโลกประณามว่าเป็นต้นเหตุแห่งไขมัน จริงๆ แล้วผงโกโก้นั้นอุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ เลซิติน โพลีฟีนอล และแร่ธาตุมากมาย ที่ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า ชะลอความแก่ และแก้ท้องผูก แต่ถึงจะดีแค่ไหนหากกินมากไปก็อ้วนได้ เพราะในช็อกโกแลต 100 กรัมมีแคลอรีเท่ากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งชามใหญ่เลยทีเดียว แต่ข่าวดีคือถ้าเรากินช็อกโกแลต (ที่มีส่วนผสมของผงโกโก้แท้ๆ ในสัดส่วนที่มาก) เพียงหนึ่งถึงสองชิ้นเล็กๆ ก็จะทำให้รู้สึกอยากอาหารน้อยลง แนะนำให้กินเป็นของว่างหลังมื้ออาหาร หรือจะพกไว้แก้นิสัยกินจุบจิบระหว่างวันได้
D : Detox
การทำดีท็อกซ์หรือการล้างพิษจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตสมัยใหม่ที่รายล้อมด้วยสารพิษทั้งจากอาหาร อากาศ และความเครียด วิธีดีท็อกซ์ที่ส่งผลดีต่อน้ำหนักคือ การกินแต่ผักเป็นเวลา 3 วัน (ผักสดที่ปลอดสารพิษ) งดแป้ง น้ำตาล ไขมัน และโปรตีน ในผักมีสารอาหารและเอนไซม์ที่ช่วยในการทำงานของตับซึ่งเป็นอวัยวะหลักที่ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกายเมื่อตับทำงานดี พิษก็จะถูกกำจัดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งในผักมีปริมาณไขมันต่ำ ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงและเส้นไฟเบอร์ปริมาณสูงในผักยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติอีกด้วย นอกจากนี้การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือกาแฟก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เห็นผลชัดเจนเพราะสามารถขจัดไขมันและคราบพิษที่เกาะตามผนังลำไส้ได้สะอาดและทำให้รู้สึกสดชื่น ผิวพรรณดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
E : Energy
วิธีลดน้ำหนักนี้จะใช้พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นขณะเผาผลาญอาหารมาช่วยลดน้ำหนัก อธิบายง่ายๆ คือเมื่อร่างกายเผาผลาญหรือดูดซึมอาหารแต่ละชนิดจะเกิดพลังงานแตกต่างกัน เช่น ถ้ากินอาหารคาร์โบไฮเดรต 100 แคลอรี ร่างกายจะใช้พลังงานในการเผาผลาญและดูดซึมประมาณ 10 แคลอรี แต่ถ้ากินอาหารโปรตีนเข้าไป 100 แคลอรี ร่างกายจะต้องใช้พลังงานถึง 25 แคลอรีเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าถ้าในหนึ่งมื้อเรากินอาหารที่มีสัดส่วนของโปรตีนเพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่า และลดคาร์โบไฮเดรตลงครึ่งหนึ่ง ร่างกายก็จะได้ใช้พลังงานในการเผาผลาญและดูดซึมมากขึ้นและทำให้น้ำหนักตัวของเราลดลงได้
F : Ford Company
เห็นตั้งชื่อแบบนี้อย่างเพิ่งตกใจว่าบริษัทฟอร์ดเปลี่ยนมาทำธุรกิจด้านลดน้ำหนักแล้วหรือ ที่ชื่อเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ฟอร์ดนามว่าเฮนรี่ ฟอร์ดนั้นมีความรู้ทางด้านโภชนาการเป็นอย่างดี และสามารถเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและน้ำหนักได้อย่างเยี่ยมยอด ฮาร์วีย์ ไดมอนด์ เคยเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง กฎที่ไม่มีวันเปลี่ยนของการลดน้ำหนัก ว่า เฮนรี่ฟอร์ดได้ก่อตั้งโรงเรียน Ford Training School ขึ้นเพื่อให้เด็กด้อยโอกาสได้มีโอกาสเรียนหนังสือ เด็กในโรงเรียนนี้จะได้กินอาหารที่เขาเป็นผู้เลือกโดยอิงตามหลักโภชนาการ โดยในเมนูอาหารแต่ละมื้อจะไม่มีชา โกโก้ เกลือ และน้ำตาลที่ผ่านการฟอกขาว เค้ก พาย หรือพุดดิ้งใดๆ เป็นของหวานเลย แต่จะให้กินสลัดผักแทนวันละ 2 ครั้งส่วนคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนนั้นเขาห้ามกินพร้อมกันเด็ดขาดจากความใส่ใจในโภชนาการอาหารของเขาทำให้เด็ก ๆ เหล่านั้นมีผลการเรียนดีเยี่ยม สุขภาพจิตดีและแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ ในปี ค.ศ.1920 หนังสือพิมพ์ Detroit Newspaper ได้รายงานว่าบริษัทใหญ่ ๆ ต่างก็แย่งตัวเด็กที่จบจากโรงเรียนนี้กันทั้งนั้น เพราะฉลาด สุขภาพดี และทำงานได้ยอดเยี่ยม
G : Ginger Tea Diet
หญิงสาวชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มชาขิงเพื่อลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายอบอุ่น ปรับสมดุลในร่างกายและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติในตำราอายุรเวทของอินเดียกล่าวยกย่องขิงไว้ว่าเป็นสุดยอดของขวัญที่เทวดามอบให้มนุษย์ หากนำขิงผสมกับชาแดงแล้วดื่มจะช่วยขจัดความเย็นที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยออกจากร่างกายนอกจากนี้ในขิงยังอุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และวิตามินบี 1 และบี 2 หากนำชาขิงผสมน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้งจะช่วยเร่งกระบวนการผาผลาญอาหารของร่างกายได้
H : Half
เทคนิคนี้เป็นของอาจารย์ยูแทอู จากเกาหลี ผู้เขียนเรื่อง อดอาหารโดยการกินครึ่งเดียว ยูแทอูมีแนวคิดว่าการลดน้ำหนักที่ได้ผลต้องเริ่มที่ต้นเหตุ เข่น เหตุที่คนอเมริกันอ้วนก็เพราะกินอาหารไขมันสูงเป็นประจำ แต่หากอาหารประจำท้องถิ่นหรือประเทศนั้นๆ ดีอยู่แล้วเช่น อาหารไทย อาหารเกาหลี หรืออาหารญี่ปุ่น แต่ประชากรกลับมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากก็อย่าได้ไปโทษอาหาร ให้โทษตัวเองว่าเรากินอาหารปริมาณมากเกินไปต่างหาก ดังนั้นวิธีลดความอ้วนก็คือต้องลดปริมาณอาหารทุกย่างให้เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวจากปริมาณที่เคยกิน อย่างเช่น ข้าวครึ่งจาน ไข่ครึ่งฟอง ซุปครึ่งถ้วย รวมถึงผลไม้และของหวานต่างๆ ก็ให้กินเพียงครึ่งเดียวทั้งหมด
I : Internet
อินเตอร์เน็ตไม่ได้มีไว้เล่น MSN อย่างเดียวนะสาวๆ เพราะนี่คือขุมทรัพย์แห่งความรู้ที่หลากหลายจากทุกมุมโลก คุณสามารถใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตในการหาเพื่อนออนไลน์ที่สนใจเรื่องการลดน้ำหนักเหมือนๆ กัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เคล็ดลับดีๆ หรือช่วยให้กำลังใจกันและกันเพื่อให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ เคยมีรายงานว่าผู้หญิงที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักจะมีภาวะซึมเศร้าและมักท้อใจกับความล้มเหลวในการลดน้ำหนัก ดังนั้นการหาเพื่อนออนไลน์เพื่อแชร์ประสบการณ์สู่กันฟังแล้วจะช่วยลดปัญหานี้ได้และทำให้มีกำลังใจมากขึ้น หรืออาจจะลองค้นหาและอัพเดตสูตรลดน้ำหนักใหม่ๆ หรือวิธีการออกกำลังกายแปลกๆ จากเว็บไซต์ทั้งไทยและต่างประเทศก็ได้ เพียงเข้าไปที่ http://www.google.com พิมพ์คำว่า Diet Plan, Work Out หรือ Fitness คุณก็จะพบเว็บไซต์นับล้านให้เลือกอ่านได้ตามใจชอบ แถมบางเว็บไซต์ยังมีคลิปวิดีโอสอนการออกกำลังกายให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายหรือมีโปรแกรมคำนวณแคลอรีให้ทดลองเล่นด้วย
J : Juice Fasts
การดื่มน้ำผักและผลไม้สามารถล้างพิษสะสมในร่างกาย เพิ่งพลังงานเติมความสดชื่นให้ร่างกาย และช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีนี้คุณต้องดื่มน้ำผักหรือน้ำผลไม้แบบแยกกากเพียงอย่างเดียว ห้ามผสมน้ำตาลหรือเกลือ แต่อนุญาตให้ผสมน้ำเปล่าได้ในกรณีที่รสชาติเข้มข้นเกินไป ในช่วงนี้ต้องงดอาหารชนิดอื่นในช่วง 1-5 วัน (แล้วแต่ว่าจะเลือกทำกี่วัน) วิธีนี้ทำได้ค่อนข้างง่ายและลดน้ำหนักได้ค่อนข้างเร็วเพราะในน้ำผักผลไม้ให้แคลอรีต่ำมาก แต่ไม่แนะนำให้ทำติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะอาจเกิดอาการอ่อนเพลียและอ่อนแอ เนื่องจากขาดโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตได้
K : Kcal
คิดจะลดน้ำหนักควรทำความรู้จักกับคำว่า "แคลอรี" ไว้ให้ดี คำคำนี้เป็นหน่วยที่ใช้บอกปริมาณพลังงานในอาหาร เมื่อร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันเข้าไปแล้วจะรวมกับออกซิเจนแล้วเผาผลาญจนเกิดพลังงานขึ้นมาและร่างกายก็จะนำพลังงานนี้มาใช้สร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายและหล่อเลี้ยงระบบอวัยวะต่างๆ ตัวอย่างเช่น ไขมันให้พลังงานสูงถึง 9 กิโลแคลอรี โดยพลังงานขนาด 1 กิโลแคลอรีนี้ทำให้อุณหภูมิน้ำเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสหรือผู้ใหญ่น้ำหนักตัว 75 กิโลกรัมจะใช้พลังงาน นาทีละ 1 กิโลแคลอรีขณะนอนหลับ เป็นต้น
L : Low-Salt Flan
รู้ไหมว่าในวันหนึ่งๆ คนไทยได้รับโซเดียมจากการกินอาหารที่มีเกลือเป็นส่วนผสมไปมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารฟาสต์ฟู้ดและอาหารสำเร็จรูปต่างๆ การกินอาหารที่มีเกลือในปริมาณสูงส่งผลเสียต่อสุขภาพและความงามอย่างมาก ทำให้ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และที่สำคัญคือผิวพรรณไม่สดใส ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ แถมไปเพิ่มความอยากอาหารอีกต่างหาก รู้อย่างนี้แล้วรีบลด ละ เลิก อาหารรสเค็มโดยด่วน
M : Metabolism Booster
กลวิธีล่อลวงระบบเผาผลาญ อาหารของร่างกายให้ขยันขึ้นนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น
ไม่อดอาหารมื้อใดๆ โดยเฉพาะอาหารเช้า เพราะอาหารเช้าช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหารให้เริ่มทำงาน ถ้าคุณลดน้ำหนักด้วยการงดอาหารจะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานแย่ลงๆ ทุกวัน
ข้อนี้สาวไทยได้เปรียบมากๆ เพราะวิธีกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหารคือ การกินเครื่องเทศรสร้อนแรงอย่างพริกไทยดำ ขิง และพริก เพราะจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น และเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้นด้วย
ผลวิจัยล่าสุดรายงานว่า การกินผลิตภัณฑ์จากนม (ชนิด Low Fat) ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปช่วยกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญไขมันได้ เพราะแคลเซียมจะช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย แนะนำให้กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติดีกว่า
N : Natural Hygiene
หนังสือที่ขึ้นแท่นขายดีที่สุดของนิวยอร์กไทมส์นาน 40 สัปดาห์ติดต่อกันนามว่า กฎที่ไม่เปลี่ยนแปลงของการลดน้ำหนัก ที่ผู้เขียนได้ตั้งข้อคิดว่าคนเราควรเรียนรู้สัญชาตญาณการควบคุมน้ำหนักจากนิสัยการกินของสัตว์ป่า ซึ่งก็คือการกินให้พอดีในแต่ละวัน ให้เหลือส่วนเกินสะสมน้อยที่สุด โดยเลือกกินอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่มีแนวโน้มที่จะสะสมในรูปแบบไขมันต่ำชนิดดี เช่น ระหว่างสลัดที่ให้พลังงาน 1,000 แคลอรี กับพิซซ่าที่ให้พลังงาน 500 แคลอรี หากดูแค่ปริมาณแคลอรีแล้วอาจคิดว่ากินสลัดอ้วนกว่าพิซซ่า แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะแม้พิซซ่าให้แคลอรีต่ำกว่า แต่ก่อไขมันส่วนเกินมากกว่า ดังนั้น ถ้าคิดจะลดความอ้วนโดยคำนวณจากแคลอรีอาหารเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เป็นผล
O : Okinawa Diet
เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่นคือดินแดนที่มีประชากรสุขภาพดีและอายุยืนมากที่สุดในโลก ภาพคนแก่อายุร้อยกว่าปีกำลังทำนาอย่างคล่องแคล่วเป็นเรื่องธรรมดา ในขณะที่โรคอ้วน มะเร็ง หัวใจและเบาหวานเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่ค่อยพบเห็น แต่จากการศึกษาปรากฏว่าผู้คนบนเกาะนี้ไม่ได้มีสูตรอาหารหรือการออกกำลังกายที่วิเศษมหัศจรรย์ใดๆ เพียงแค่พวกเขามีไลฟ์สไตล์ที่เอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพแบบสุดๆ นั่นคืออาหารการกินจากธรรมชาติที่มีแคลเซียม วิตามินอี และโปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ จำพวกสาหร่าย ปลาทะเลน้ำลึก เต้าหู้ ถั่วเหลือง ผักพื้นบ้าน การขยันทำไร่ ทำนา มีชีวิตที่เรียบง่าย มีศาสนาและเทพเจ้ายึดเหนี่ยวจิตใจ และมีความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชนทำให้ไม่เครียด
P : Pill
ข่าวดีสำหรับคนกินจุ เพราะยาเม็ดเล็กๆ ที่กินแล้วทำให้รู้สึกอิ่มนานถูกสร้างขึ้นมาแล้ว เคยมีรายงานในเว็บไซต์ http://www.widenews.com ว่ายาลดน้ำหนักใหม่นี้คิดค้นและพัฒนาขึ้นในประเทศอิตาลี ดีกว่ายาลดน้ำหนักปัจจุบันที่ออกฤทธิ์ลดความอยากอาหารตรงที่ทำจากใยอาหาร (Fiber) แห้งที่อัดแน่นเป็นเม็ดเล็กๆ แต่เมื่อโดนน้ำจะขยายใหญ่ขนาดเท่าลูกเทนนิสเลยทีเดียว นักวิจัยหลุยส์ อัมโบรจิโอ ผู้พัฒนายาชนิดนี้ บรรยายสรรพคุณว่า ยาชนิดนี้เมื่อกินแล้วจะให้ความรู้สึกอิ่มเหมือนเพิ่งกินอาหารมาใหม่ๆ แต่โฆษกขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ออกโรงเตือนว่า ถ้าคิดจะกินแต่ยาโดยไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วยละก็คงจะเสียเงินเปล่าแน่ๆ แม้ว่ายาตัวนี้จะยังไม่มีการตั้งชื่อเป็นทางการ แต่เริ่มทดลองใช้ในโรงพยาบาลที่อิตาลีแล้ว คาดว่าคงออกจำหน่ายเร็วๆ นี้ แต่จะเข้าเมืองไทยได้หรือไม่และเมื่อไหร่นั้นต้องติดตามกันต่อไป
Q : Quiz
มีคำถามมาให้ลองทายสนุกๆ ว่ากลุ่มคนกรุ๊ปเลือดไหนมีนิสัยการกินอย่างไรและควรกินอาหารอย่างไรไม่ให้อ้วน
กลุ่มที่ชอบความท้าทาย ชอบหาอะไรแปลกใหม่เสมอ แต่เป็นคนกินอิ่มแล้วจะขี้เกียจ ไม่ชอบขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเท่าใด ทำให้อ้วนได้ง่าย วิธีไดเอ็ตที่เหมาะคือคอยหาสูตรอาหารลดน้ำหนักใหม่ๆ มาแก้เบื่อ
คนเลือดกรุ๊ปนี้ชอบการแข่งขันและการเอาชนะมาก ขอแค่มีเป้าหมายและมีคู่แข่ง เธอจะต้องประสบความสำเร็จกับการไดเอ็ดแน่นอน คนกลุ่มนี้ควรจะหาแนวร่วมมาแข่งลดน้ำหนักพร้อมๆ กัน รับรองได้ผลแน่ๆ แต่คนกลุ่มนี้มักขาดความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายจึงมีแนวโน้มกลับมาอ้วนง่าย
กรุ๊ปเลือดกลุ่มนี้ชอบสังสรรค์ ความอดทนต่ำ และขาดความพยายาม ทำให้ล้มเลิกความตั้งใจได้ง่าย หากแผนลดน้ำหนักนั้นเห็นผลช้า คนกลุ่มนี้จึงควรลดน้ำหนักให้ลงเร็วที่สุดในเวลาสั้นที่สุด และก่อนออกสังสรรค์ควรดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ ล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและกินอาหารได้น้อยลง
กลุ่มสุดท้ายเป็นกรุ๊ปเลือดของพวก Perfectionist ที่ชอบทำทุกสิ่งทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ ตามแผนที่ได้ตั้งไว้ ทำให้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ แนะนำให้หารูปดาราหรือเซเล็บคนโปรดที่รูปร่างดี มาติดตามตู้เย็นเพื่อปลุกระดมตัวเองเป็นระยะๆ ที่ต้องระวังคือพวกเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์มักมีอาการเครียดยามเห็นอะไรไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการเบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากเกินปกติได้เช่นกัน คนกลุ่มนี้เหมาะกับการลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป
คำเฉลย : ข้อ 1 เลือดกรุ๊ป B ข้อ 2 เลือดกรุ๊ป O ข้อ 3 เลือดกรุ๊ป AB ข้อ 4 เลือดกรุ๊ป A
ที่มา : หนังสือ LSN Diet ของลีซึงนัม
R : Raw Food Diet
หลักการของการกินอาหารแบบ Raw Food คือการกินอาหารสดที่ผ่านการแปรสภาพหรือปรุงด้วยความร้อนน้อยที่สุดเพื่อรักษาเอนไซม์ในอาหารไว้ หลักการง่ายๆ คือกินอาหารที่ยังจำเค้าหน้าตาเดิมของมันได้ เช่น ธัญพืชเป็นเม็ดๆ แทนแป้งที่มีลักษณะเป็นผงๆ สูตรนี้เน้นการกินผักผลไม้ ถั่ว เมล็ดพืช ผลไม้แห้ง ปลาและสัตว์ปีก จะสังเกตเห็นได้ว่าอาหารในสูตรนี้มีไฟเบอร์สูงจึงทำให้อิ่มเร็ว และมีคาร์โบไฮเดรตอยู่ปริมาณน้อยมาก ส่งผลทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ นอกจากนี้ผลวิจัยบางชิ้นยังระบุว่าการกินอาหารแบบ Raw Food Diet ช่วยชะลอความชราได้ด้วย
S : Summer Diet
เตือนไว้ด้วยความหวังดีสำหรับออฟฟิศที่ชอบเปิดแอร์เย็นจัดเหมือนอยู่ขั้วโลก เพราะดอกเตอร์เดวิด แอลลิสัน แห่งมหาวิทยาลัยแอละแบมาระบุว่า แอร์เย็นๆ เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคอ้วน เพราะว่าปกติแล้วมนุษย์ต้องเผาผลาญพลังงานเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย แต่หากเราใช้เครื่องปรับอากาศมาปรับอุณหภูมิของร่างกายแทน ร่างกายก็ไม่มีโอกาสได้ใช้พลังงานจากอาหารเลย จนเหลือสะสมไว้ตามเอวหรือสะโพกให้ช้ำใจ หากแก้ที่แอร์ไม่ได้ ให้แก้โดยการกินอาหารที่ช่วยเพิ่มความร้อนในร่างกายอย่างเครื่องเทศหรือพริกต่างๆ
T : Trainer's A-List Project
เคยสงสัยไหมว่า ฮิลารี่ สแวงก์ หรือ เจสสิก้า ซิมป์สัน รักษารูปร่างให้ผอมเพรียวและดูสุขภาพดีได้อย่างไร ในหนังสือ The A-List Project เผยเคล็ดลับของเทรนเนอร์เก่งๆ ของดาราเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด เช่น ไมค์ อเล็กซานเดอร์ เทรนเนอร์ ส่วนตัวของฮิลารี่ สแวงก์ เจ้าของแผ่นหลังและต้นขาที่งดงาม แนะนำว่าให้คุณลองยืนอยู่หน้ากระจกและตรวจดูรูปร่างของตัวเองว่าเรายืนห่อไหล่หรือไม่ พุงยื่นล้ำหน้าออกมาน่าเกลียดหรือเปล่าถ้าใช่ ให้ลองเริ่มออกกำลังกายกล้ามเนื้อแผ่นหลังดังนี้ โดยเริ่มจากยืดตัวให้สุด ยกมือขึ้นเหนือศีรษะยืนตรงนิ่ง ยืดอก เกร็งหน้าท้อง แล้วมองตัวเองในกระจกดูใหม่ รู้สึกไหมว่าภาพตัวคุณหน้ากระจกตอนนี้กับภาพก่อนหน้านี้ต่างกันมาก นั่นเป็นเพราะคุณได้จัดโครงสร้างร่างกายให้ถูกต้องทำให้คุณดูผอมลงไปประมาณ 2 กิโลกรัมในทันที ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายยกกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังนี้จะไม่ได้ทำให้รูปร่างและบุคลิกภาพท่าทางดีขึ้นในทันที แต่ก็ช่วยเตือนไม่ให้เราลืมจัดโครงสร้างร่างกายของตัวเองให้ถูกต้องตลอดเวลา
U : Ultra Shape
อัลตร้าเชพ คือการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิก ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่งเข้าไปสลายเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เกิดแผลใดๆ เทคโนโลยีนี้เด็ดตรงที่ค้นหาไขมันได้แบบอัตโนมัติทำให้ขจัดเซลล์ไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือเมื่อขจัดเซลล์ไขมันไปแล้ว จำนวนเซลล์ไขมันจะไม่เพิ่มขึ้นอีกทำให้น้ำหนักคงที่หลังทำ แต่ถ้าหากคุณกินไม่ระวังหรือไม่ยอมออกกำลังกายเลย เซลล์ไขมันที่มีอยู่ก็สามารถขยายไซส์ได้เช่นกัน
V : V Line
วีไลน์นี้เป็นเทรนด์ความงามใหม่ที่จะเข้ามาแทนรูปร่างโค้งเว้าแบบเอสไลน์ (S Line) คำว่า V Line นั้นสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เช่น รูปคางแหลม เส้นกระดูกไหปลาร้าที่สวย เส้นเว้าระหว่างอกที่อวบอิ่มได้รูปรวมทั้งเส้นกระดูกเชิงกรานบริเวณหน้าท้องที่ต้องได้รูปคล้ายตัว V นั่นเอง คนที่มีรูปร่างแบบนี้ไม่จำเป็นต้องผอม หรือลดน้ำหนักแต่ต้องหมั่นออกกำลังกาย ตัวอย่างคนที่มีรูปร่างแบบวีไลน์ คือ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่แม้จะไม่ใช่สาวร่างผอมแต่ก็ดูเพรียวเซ็กซี่เพราะทุกสัดส่วนได้รูปตามลักษณะวีไลน์ทั้งหมด
W : Water
มิตรแท้ของการลดน้ำหนักก็คือน้ำ น้ำสามารถขจัดของเสียในร่างกายและทำให้รู้สึกหิวน้อยลง หากดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรทุกวัน เป็นเวลาหนึ่งปี คุณจะลดน้ำหนักได้ถึง 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว บางคนคิดว่าการดื่มน้ำมากทำให้ตัวบวมฉุ ซึ่งไม่จริงเลย เพราะผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้ตัวบวมน้ำ คืออาหารรสเค็มต่างหาก
X : X-cercise
ควรออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น เพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญแคลอรี นั่นหมายความว่ายิ่งมีกล้ามเนื้อในตัวมาก ไขมันน้อยเท่าไหร่ ระบบเผาผลาญอาหารของร่างกายก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น โดยการออกกำลังกายนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ทำได้ตั้งแต่เข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งเดินไปซื้อของหรือเดินลงบันไดที่บ้าน
Y : Yellow Food
ลีซึงนัม ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Color Diet กล่าวไว้ว่า สีเหลืองในผลไม้คือสีของอาหารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็งและชะลอความชรา ในผลไม้สีเหลืองอย่าง เกรปฟรุตยังมีสาร 2 ชนิดที่สามารถลดไขมันในร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม สารที่ว่านี้คือ เนรินเจนิน (Naringenin) และสารเควลเซติน (พบในหัวหอมด้วย สูตรลดน้ำหนักบางตำราแนะนำให้ดื่มน้ำต้มจากหัวหอมใหญ่ เพราะสารเคมีที่มีอยู่ในหัวหอมใหญ่ที่ชื่อเควลเซตินนี่แหละที่ช่วยลดไขมันในร่างกาย) ผลวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นบางสำนักระบุว่า เพียงแค่สูดดมกลิ่นของเกรปฟรุตก็ช่วยเร่งให้ร่างกายขจัดไขมันได้แล้ว เหตุผลทั้งหมดนี้เองที่ทำให้เกรปฟรุตเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารลดน้ำหนักที่คุณไม่ควรพลาด
Z : Zone Diet
วิธีการลดน้ำหนักแบบโซนไดเอ็ต (Zone Diet) นี้คือวิธีที่นางเอกสาวสวยอย่างเจนนิเฟอร์ อนิสตันเลือกใช้ คำว่า Zone ในที่นี้หมายถึงสภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับร่างกายและจิตใจ หรือสภาวะที่ร่างกายแข็งแรงมากที่สุดนั่นเอง แนวคิดนี้มีความเชื่อว่าหากร่างกายอยู่ในสภาพที่เหมาะสมไขมันส่วนเกินก็จะค่อยๆ ลดลงเองโดยไขมันส่วนเกินก็จะค่อยๆ ลดลงเองโดยอัตโนมัติ โซนไดเอ็ตไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่เป็นการควบคุมให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่เหมาะสมและทำให้ไขมันลดลงเองตามธรรมชาติ โดยหลักการแล้วจะแบ่งสัดส่วนการกินอาหารออกเป็นคาร์โบไฮเดรต 40 เปอร์เซ็นต์, ไขมัน 30 เปอร์เซ็นต์ และ โปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ แต่คาร์โบไฮเดรต ในที่นี้ต้องเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าไกลซีมิกต่ำเพื่อรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งก็คือธัญพืช ขนมปังโฮวีตหรือแป้งที่ไม่ผ่านการขัดขาว ทำให้มีเส้นใยไฟเบอร์จำนวนมากนั่นเอง
ฟังดูอาจจะยุ่งยากสักหน่อย แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้ง่ายๆ โดยแบ่งจานข้าวของเราออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ โปรตีน (เป็นโปรตีนจากถั่วเหลือได้ และถ้าเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็ต้องปราศจากไขมัน) ให้มีเนื้อที่ประมาณหนึ่งฝ่ามือของเราอีกสองส่วนที่เหลือเป็นที่ของคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากผักและผลไม้ และไขมันประเภทไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนอย่างน้ำมันมะกอก เป็นต้น โดยนอกจากมื้อหลักๆ 3 มื้อแล้ว แนวคิดโซนไดเอ็ตยังแนะนำให้กินมื้อว่างอีกอย่างน้อย 2 มื้อ รวมเป็น 5 มื้อในแต่ละวันโดยมื้อว่างจะเป็นพวกอาหารไขมันต่ำ
วันที่ 2 พ.ค. 2552
ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopeehttps://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,253 ครั้ง เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง เปิดอ่าน 7,274 ครั้ง เปิดอ่าน 7,186 ครั้ง เปิดอ่าน 7,185 ครั้ง เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง เปิดอ่าน 7,430 ครั้ง เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,227 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง เปิดอ่าน 7,165 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 15,399 ครั้ง |
เปิดอ่าน 1,319,043 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,608 ครั้ง |
เปิดอ่าน 28,947 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,082 ครั้ง |
|
|