30มิ.ย.63-จากกรณีมีโรงเรียนและผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุดรธานี มุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ กว่า 1,000 แห่ง ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกร้านค้าฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายให้ชดใช้หนี้อันเกิดจากการสั่งซื้อครุภัณฑ์ให้โรงเรียนตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นบริษัทเอกชน เดินสายพบปะกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆในพื้นที่ภาคอีสาน โดยอ้างว่านำครุภัณฑ์ทางการศึกษา เช่น หลอดไฟฟ้าแอลอีดี สมาร์ททีวี ขนาด 52 นิ้ว และเครื่องกรองน้ำ มาให้กับทางโรงเรียน ซึ่งระบุว่าโรงเรียนไม่ต้องชำระเงิน แต่ให้ทำใบสั่งซื้อและอนุโมทนาบัตรแทน แต่ปรากฏภายหลังว่าโรงเรียนกว่า 1,000 แห่งกลับได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ มูลค่าโรงเรียนละ 1.9 แสน-2 แสนบาทนั้น
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการดำเนินการกันเองระหว่างโรงเรียนกับบริษัทเอกชน สพฐ.ไม่เคยมีนโยบายให้ดำเนินการ อีกทั้งในเรื่องนี้ตนพบความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น เพราะการจะก่อหนี้ผูกพันได้จะต้องมีเงินงบประมาณก่อน โดยจากการตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า ยังไม่มีงบประมาณแต่มีจัดส่งของเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง สพฐ.จะสอบถามผู้บริหารโรงเรียน ว่า การดำเนินการแบบนี้มีเจตนารมย์อย่างไรมีประโยชน์ต่อราชการหรือมีความเสียหายต่อราชการหรือไม่
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563