ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภาประกาศคัดเลือกรางวัลครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2563 จำนวน 12 ประเภท ดังนี้
1) ปฐมวัยดีเด่น
2) ประถมศึกษาดีเด่น
3) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ดีเด่น
4) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ดีเด่น
5) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมดีเด่น
6) กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษา และพลศึกษาดีเด่น
7) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะดีเด่น
8) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีดีเด่น
9) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ)
10) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยดีเด่น
11)การศึกษาพิเศษและการศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วมดีเด่น และ
12) อาชีวศึกษาดีเด่น (ปวช)
(หากหน่วยงานทางการศึกษาใดเรียกประเภท/กลุ่มสาระการเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนแตกต่างกันออกไป หากสอนในเนื้อหาวิชาลักษณะเดียวกัน ให้ถือเป็นประเภทเดียวกัน)
แบ่งรางวัลเป็น 2 ระดับ ได้แก่ “ระดับดีเด่น” และ “ระดับดี” รวมไม่เกิน 24 รางวัล โดยผู้ได้รับรางวัลระดับดีเด่นจะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ เข็มเชิดชูเกียรติ และเกียรติบัตร กำหนดมอบรางวัลในงานวันครู พ.ศ. 2564
ผู้มีสิทธิรับรางวัลต้องมีคุณสมบัติ อาทิเช่น เป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาปฐมวัย หรือขั้นพื้นฐาน หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องมีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ในแต่ละประเภทที่เสนอผลงาน ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันออกประกาศฯ เป็นผู้ปฏิบัติงานและปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ไม่อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางคดี หรือการสอบสวนทางวินัยใดๆ และไม่เคยหรือเคยได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่นในกลุ่มสาระเดิมที่เสนอขอมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นต้น โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านนวัตกรรม
การเสนอผลงานหรือเสนอชื่อ มี 2 วิธี ได้แก่ 1) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเสนอผลงานด้วยตนเอง (ต้องไม่ให้บุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม เสนอผลงานซ้ำอีก และผู้บริหารสถานศึกษาลงนามรับรองการเสนอได้มากกว่าหนึ่งคน ตามจำนวนที่เสนอขอได้) และ 2) ได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม เสนอผลงานให้ผู้บริหารสถานศึกษารับรอง ทั้งนี้ สามารถส่งผลงานเข้ารับการคัดเลือกได้คนละ 1 ประเภท ต่อกลุ่มสาระการเรียนรู้
การเสนอผลงาน ให้ดำเนินการ ดังนี้ 1) ผู้มีสิทธิเสนอผลงาน หรือเสนอชื่อ กรอกข้อมูลแบบรายงานประวัติและผลงาน แบบสรุปชื่อผลงาน และแบบเสนอผลงานนวัตกรรมหรือการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนให้ครบทุกข้อตามแบบที่กำหนด แล้วจัดทำเล่มผลงาน จำนวน 1 เล่ม ใช้กระดาษขนาด A4 จำนวนไม่เกิน 30 หน้า (ไม่รวมปก/คำนำ/สารบัญ) พิมพ์ด้วยอักษรแบบ TH Sarabun PSK ขนาดตัวอักษร 16 pt พร้อมบันทึกข้อมูล เป็นไฟล์ PDF ลงแผ่น CD หรือ DVD หรือ Flash Drive หากเกินจำนวนหน้าที่กำหนด ไม่เข้าเล่มให้เรียบร้อย และไม่ส่งไฟล์ผลงาน จะไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ และขอสงวนสิทธ์ไม่ส่งผลงานคืน และ 2) บันทึก VDO การสอนจริง โดยใช้ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เสนอขอรับรางวัล ความยาวไม่เกิน 20 นาที ลงแผ่น CD หรือ DVD หรือ Flash Drive เป็นไฟล์ MP4 หรืออัพไฟล์ VDo บน YouTube พร้อมทั้งส่งลิงก์มาพร้อมกับแผ่น CD หรือ DVD หรือ Flash Drive
ทั้งนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะแจ้งให้ส่งผลงานนวัตกรรม หรือการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอน มาเพื่อประกอบการพิจารณาในรอบตัดสิน
การส่งผลงานและการดำเนินการคัดเลือก ผู้มีสิทธิเสนอผลงานหรือเสนอชื่อ จะต้องยื่นเสนอผลงานภายในระยะเวลากำหนดของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อพิจารณาคัดเลือกในระดับจังหวัด โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่เกิน 15 คน คัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครูทุกสังกัด ให้เหลือประเภท/กลุ่มสารระการเรียนรู้ ละ 1 คน แล้วบันทึกข้อมูลผู้ได้รับการคัดเลือกในระบบ “ยกย่องวิชาชีพ งานรางวัลครูผู้สอนดีเด่น” ระบบ tepis2.ksp.or.th ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ ให้ส่งแบบรายงานประวัติและผลงานไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อพิจารณาคัดเลือก ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
สำหรับกรุงเทพมหานคร (แทนสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่เกิน 15 คน คัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครูทุกสังกัด ให้เหลือประเภท/กลุ่มสารระการเรียนรู้ ละ 1 คน เพื่อพิจารณาคัดเลือกตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก ณ หน่วยคัดเลือก เพื่อรับฟังคำคัดค้านภายใน 7 วัน นับแต่วันประกาศรายชื่อ คุรุสภาจะประกาศผลการคัดเลือกภายในเดือนธันวาคม 2563 คำวินิจฉัยของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพถือเป็นที่สุด
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th สอบถามได้ที่ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ กลุ่มยกย่องวิชาชีพ โทร. 0 2282 3154 หรือ 0 2281 4843
ขอบคุณที่มาและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา