“สุภัทร”เผยคำนวณค่าใช้จ่ายรายหัวใหม่ตามอัตราเงินเฟ้อ เชื่อแทบไม่กระทบงบประมาณถ้าปรับค่าใช้จ่ายรายหัว เพราะเด็กเกิดน้อยลง
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา(กกส.) เปิดเผยว่า ตนมีแนวคิดอยากจะนำเสนอ เรื่อง กรอบภาพรวมค่าใช้จ่ายรายหัว ซึ่งจากที่ลองนำอัตราเงินเฟ้อ 10 ปีย้อนหลัง(ปี2552-2562) ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 1% กว่า ๆ สูงสุดไม่เกิน 2% มาคำนวณ ทั้งแบบคำนวณทีละปี และแบบเฉลี่ย 10 ปี
ผลที่ได้คืออัตราเงินเฟ้อช่วง 10 ปีมานี้จะมีค่าเฉลี่ยจะอยู่ประมาณที่ 15.9-16.4 % ขณะที่จีดีพีของประเทศเติบโต 42% แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ การจัดเก็บรายได้ของประเทศโตขึ้นประมาณ 25 % เพราะฉะนั้นในความเห็นของตน คิดว่าน่าจะมีการปรับค่าใช้จ่ายรายหัวตามอัตราเงินเฟ้อประมาณ 16% ได้
เลขาธิการ กกส. กล่าวต่อไปว่า เชื่อว่าต้องมีคำถามว่า ถ้าปรับอัตราค่าใช้จ่ายรายหัวตามอัตราเงินเฟ้อ จะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งจากที่ดูข้อมูลขณะนี้ เนื่องจากจำนวนนักเรียนที่อยู่ในระบบโรงเรียนทั้งหมดตั้งแต่ ป.2 – ม.6 มีแนวโน้มจำนวนเด็กลดลง และยิ่งคาดการณ์ว่าในระยะ 6 ปีข้างหน้าจำนวนการเกิด จะลดลงถึง 22% เพราะฉะนั้นถ้าเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัว 16% ก็ไม่น่ากระทบมาก โดยอาจจะกระทบแค่ 3-4 ปีแรก ๆ หลังจากนั้นก็จะลดลงตามจำนวนเด็กอยู่แล้ว
“การคำนวณเงินอุดหนุนเป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ซึ่งล่าสุดประกาศใช้เมื่อปี 2552 แต่ก็เป็นตัวเลขที่คำนวณมาตั้งแต่ ปี 2545 แล้วมีการปรับเพิ่มขึ้นลดลงจนได้ประกาศใช้เมื่อปี 2552 และใช้มาถึงปัจจุบัน เท่ากับว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายรายหัวปัจจุบันเป็นตัวเลขเมื่อเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นหากจะมีการปรับค่าใช้จ่ายรายหัวจริง ๆ ก็สามารถทำได้เลย ซึ่งถ้าปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อ 16% จริง ๆ งบประมาณที่เพิ่มขึ้นก็เพิ่มไม่มากและจะทยอยลดลงด้วย เพราะตัวเลขจำนวนนักเรียนลดลง” ดร.สุภัทร กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 29 เมษายน 2563