เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการรับสมัครออกไป โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กำหนดให้นักเรียนในสังกัด สพฐ.ที่จะเข้าเรียนชั้นม.1 และ ม.4 . สมัครเข้าเรียนในระบบออนไลน์ วันที่ 3-12 พ.ค.และจัดสอบในเดือนมิ.ย.ทั้งนี้คงต้องมีการประเมินสถานการณ์และดูความเหมาะอีกครั้ง โดยวันนี้เลขาธิการ กพฐ.จะลงนามในประกาศการรับนักเรียนปีการศึกษา2563 หากมีการเปลี่ยนแปลง สพฐ.จะแจ้งก่อนล่วงหน้า 15 วัน
“ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ จะเป็นการทดสอบระบบการจัดการเรียนการสอนทางไกลและออนไลน์ เพื่อดูสัญญาณว่าโรงเรียนไหนรับได้หรือไม่ได้ เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน เพื่อมาปรับปรุงและพัฒนาให้สามารถเดินหน้าไปได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกการใช้ระบบก่อนที่จะใช้จริงในวันที่เปิดภาคเรียน”รมว.ศึกษาธิการ
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวว่า เนื่องจากเราได้แบ่งกลุ่มโรงเรียนเป็น 2 กลุ่ม คือ โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงประมาณ 280 โรงเรียน กับโรงเรียนปกติทั่วไป ที่มีอัตราการสมัครน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนรับ ซึ่งกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเด็กมีที่เรียนแน่นอน แต่กรณีโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งเด็กคงแห่ไปสมัครมาก วันนี้สพฐ.ได้วางแผนให้เปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 3-12 พ.ค.2563 ส่วนการคัดเลือกนักเรียนเท่าที่ประเมิน หากให้โรงเรียนที่มีอัตราแข่งขันสูงสอบทางออนไลน์เชื่อว่าไม่สามารถควบคุมได้ และเริ่มมีข่าวว่าจะมีการับจ้างสอบกันแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องให้เด็กมานั่งสอบ ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่นอนได้ ต้องประเมินสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อน แต่คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จไม่เกินวันที่ 15 มิ.ย.เพราะต้องหาที่เรียนให้กับเด็กที่สอบไม่ได้ด้วย
“การสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนจะให้นั่งสอบในห้องเรียน แต่จะทิ้งระยะห่างของนักเรียนห้องละไม่เกิน 20 คน ทั้งนี้สพฐ.ขอเตือนว่า ให้เด็กสมัครสอบตามเอกสารความเป็นจริง หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง หรือปลอมแปลงเอกสาร จะถูกตัดสิทธิ์ทันที แม้เด็กจะสอบเข้าเรียนโรงเรียนแข่งขันสูงได้ก็ตาม และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 17 เมษายน 2560
ฝากติดตามข่าวสาร http://www.focusnews.in.th