ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ครม.รับทราบให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 จาก 16 พ.ค. เป็น 1 ก.ค.


ข่าวการศึกษา 7 เม.ย. 2563 เวลา 13:05 น. เปิดอ่าน : 9,970 ครั้ง
Advertisement

ครม.รับทราบให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 จาก 16 พ.ค. เป็น 1 ก.ค.

Advertisement

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอการปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะปรับวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษา ของปีการศึกษา 2563 โดยกระทรวงศึกษาธิการจะได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง ศธ. เสนอว่า

1. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ข้อ 2 ยับยั้งการระบาดภายในประเทศ ข้อ 2.4 งดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย (สถาบันการศึกษา) โรงเรียน โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันกวดวิชา หรือปรับวิธีการเรียนการสอนเป็นทางออนไลน์ ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นระยะเวลา 14 วัน และให้สถานศึกษาดำเนินการป้องกันโรคตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เมื่อสถานศึกษากลับมาเปิดสอนตามปกติ และข้อ 2.6 งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก ได้แก่ ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน รวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค เช่น การตรวจคัดกรองคนก่อนเคลื่อนย้าย

2. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 ข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้สถานศึกษาเปิดและปิดภาคเรียนตามปกติในรอบปีการศึกษาหนึ่งตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ (1) ภาคเรียนที่หนึ่ง วันเปิดภาคเรียน วันที่ 16 พฤษภาคม วันปิดภาคเรียน วันที่ 11 ตุลาคม (2) ภาคเรียนที่สอง วันเปิดภาคเรียน วันที่ 1 พฤศจิกายน วันปิดภาคเรียน วันที่ 1 เมษายน ของปีถัดไป วรรคสอง สถานศึกษาใดประสงค์จะเปิดและปิดภาคเรียนแตกต่างไปจากที่กำหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดเป็นผู้กำหนดตามที่เห็นสมควร ดังนั้น อาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 กระทรวงศึกษาธิการเห็นสมควรให้มีการเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง จากวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าหากมีการเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่งล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการวางแผนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 เป็นอย่างยิ่งและจะมีผลกระทบต่อไปถึงการเรียนการสอนในปีการศึกษาต่อ ๆ ไปด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะได้ประสานงานกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ถึงความเหมาะสมในวิธีการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับนโยบายโดยรวมของประเทศต่อไป

3. กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศเรื่องให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่สถานศึกษาต้องปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษดังกล่าว หากมีความจำเป็น ให้ส่วนราชการต้นสังกัดกำหนดแนวทางแก้ปัญหา ทั้งนี้ ให้สถานศึกษาจัดให้มีการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนโดยปรับการเรียนการสอนเป็นทางออนไลน์

4. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สามารถติดต่อโดยการแพร่กระจายละอองฝอยของเชื้อโรคเหมือนเชื้อกลุ่มไข้หวัด และการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง จึงติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตประชาชน ประกอบกับในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคทั้งยังไม่มียารักษาโรคโดยตรง ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นกลุ่ม หรือการรวมตัวกันของคนหมู่มาก มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้เรียน ครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจึงเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบการปรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563

5. เนื่องจากตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) มีคำแนะนำให้ประชาชนอยู่บ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ เด็กอายุไม่เกิน 5 ปี อันส่งผลกระทบต่อสถานศึกษาในกระบวนการการรับสมัคร การสอบคัดเลือก การจับฉลาก การประกาศผล การรายงานตัว และการมอบตัวที่ได้กำหนดวันไว้เดิมตามปฏิทินการรับนักเรียน นักศึกษาและผู้เรียนในปีการศึกษา 2563 ซึ่งกำหนดดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563 โดยขณะนี้สถานศึกษายังไม่สามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการข้างต้น ทำให้สถานศึกษาไม่สามารถเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563 

ครม.เคาะเลื่อนวันเปิดเทอมปี63 จาก16พ.ค.เป็น1ก.ค.

ครม.ไฟเขียวเลื่อนวันเปิดเทอมปีการศึกษา 63 จาก 16 พ.ค.63 เป็น 1 ก.ค. 63 สอดรับสถานการณ์"โควิด"ระบาด

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.มีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พ.ค.2563 เป็นวันที่ 1 ก.ค.2563

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาให้เหตุผลว่าระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 ข้อ 7 วรรคหนึ่ง กำหนดให้สถานศึกษาเปิดและปิดภาคเรียนตามปกติในรอบปีการศึกษาหนึ่ง โดยวันเปิดภาคเรียน คือวันที่ 16 พ.ค. วันปิดภาคเรียน คือวันที่ 11 ต.ค. ส่วนภาคเรียนที่ 2 วันเปิดภาคเรียน วันที่ 1 พ.ย. วันปิดภาคเรียน วันที่ 1 เม.ย.ของปีถัดไป

นางนฤมล กล่าวอีกว่า อีกทั้ง เนื่องจาก ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) มีคำแนะนำให้ประชาชนอยู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนมีโรคประจำตัว และเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานศึกษาในกระบวนการการรับสมัคร การสอบคัดเลือก การจับฉลาก การประกาศผล การรายงานตัว และการมอบตัวที่ได้กำหนดวันไว้เดิมตามปฏิทินการรับนักเรียน นักศึกษาและผู้เรียนในปีการศึกษา 2563 ซึ่งกำหนดดำเนินการระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.2563


โดยขณะนี้สถานศึกษายังไม่สามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการข้างต้น ทำให้สถานศึกษาไม่สามารถเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 16 พ.ค.2563 ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงเห็นสมควรให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พ.ค.2563 เป็นวันที่ 1 ก.ค.2563 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นางนฤมล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าถ้าเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการวางแผนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 เป็นอย่างยิ่ง และจะมีผลกระทบต่อไปถึงการเรียนการสอนในปีการศึกษาต่อๆไปด้วย ดังนั้น ทางกระทรวงฯ จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต่อไปถึงการปรับวิธีการเรียนการสอนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษาของปีการศึกษา 2563 รวมถึงสอดรับกับนโยบายโดยรวมของประเทศ.


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 7 เมษายน 2563


ครม.รับทราบให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 จาก 16 พ.ค. เป็น 1 ก.ค.ครม.รับทราบให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่12563จาก16พ.ค.เป็น1ก.ค.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 14,285 ☕ 31 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 159 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 506 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 568 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 2,965 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 1,917 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 782 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เทคนิคภาษาอังกฤษ
เทคนิคภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 27,253 ครั้ง

กลูตาไธโอน มีมากกว่าทำให้หน้าใส
กลูตาไธโอน มีมากกว่าทำให้หน้าใส
เปิดอ่าน 13,373 ครั้ง

LearnSquare
LearnSquare
เปิดอ่าน 20,768 ครั้ง

ฝึกอ่านภาษาอังกฤษง่ายๆตามแบบเรียนมานี มานะ ปิติ ชูใจ
ฝึกอ่านภาษาอังกฤษง่ายๆตามแบบเรียนมานี มานะ ปิติ ชูใจ
เปิดอ่าน 26,253 ครั้ง

สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
เปิดอ่าน 33,327 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ