เมื่อวันที่ 29 ก.พ.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้ลงนามคำสั่งประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมีมาตรการ
ดังนี้
1.ให้ชะลอการอนุมัติหรืออนุญาตการเดินทางไปฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ศึกษาดูงาน และปฏิบัติ การวิจัยระหว่างประเทศ การไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขของข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ
2.กรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาติให้เดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนประกาศฯ ฉบับนี้ ให้ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับและนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ งด หรือ เลื่อนการเดินทางออกไป จนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศยกเลิกประเทศที่มีความเสี่ยง
กรณีมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศให้แจ้งเหตุจำเป็นต่อผู้มีอำนาจอนุมัติหรืออนุญาตเพื่อพิจารณา การเดินทางไปต่างประเทศ หรือแวะผ่านประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง
3.กรณีนักเรียน นักศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ทุกประเภท มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยภารกิจส่วนตัว กระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือให้ขะลอการเดินทางออกไปก่อน หากกรณีมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจหลีกเสี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือให้นักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ให้ผู้บริหารสถานศึกษารายงานถึงกรณีที่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดเดินทางในประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำกับติดตามและรายงานผลการดำเนินการ
4.ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ หรือแวะผ่าน หรือกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยให้ผู้นั้นเข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่โรงพยาบาล และพักเพื่อฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลาและให้รายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาทราบผ่านทางอีเมล์ แอปพลิเคชันไลน์ หรือซ่องทางสื่อสารออนไลน์อื่นๆ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โดยผู้บังคับบัญชาอาจมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้าน หรือที่พัก และรายงานการปฏิบัติงานต่อผู้บังคับบัญชด้วยรูปแบบตามที่เห็นสมควร หรือ ที่ได้ทำการตกลงกันไว้ ในระหว่างที่พัก สำหรับนักเรียน นักศึกษา ให้รายงานตัวผ่านทางอี้เมล์หรือแอปพลิเคชันไลน์ต่อครูที่ปรึกษาและครูที่ปรึกษารวบรวมข้อมูลรายงานต่อผู้บริหารสถานศึกษา และให้หยุดเรียนตามระยะเวลาโดยต้องจัดให้มีการเรียนการสอนเพิ่มเติมด้วยรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อทดแทนช่วงที่ขาดเรียน
5.หากมีบุคคลจากต่างประเทศหรือเขตการปกครองกลุ่มประเทศเสี่ยงมาติดต่อราชการในหน่วยงานสถานศึกษา ให้หน่วยงาน สถานศึกษา ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด. นอกจากนี้ให้ชะลอการเชิญบุคคลจากต่างประเทศมาร่วมการประชุม การสัมมนา หรือการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องออกไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลาย กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งให้เสนอเหตุจำเป็นต่อหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชาพิจารณา และกำหนดมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสม
6.กรณีข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ มีบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดเดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือสัมผัสผู้ต้องสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อการติดต่อโรคนี้ให้งดเข้าชั้นเรียน หรือหยุดมาปฏิบัติงาน หรือหยุดมาปฏิบัติราชการเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นเวลา 14วัน โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงาน
7.ให้ข้าราชการครูและบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ระมัดระวังและป้องกันตัวเอง โดยล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
8.ให้สถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ทำความสะอาดพื้นที่ภายในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องและส่งเสริมความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแก่เด็กนักเรียน หากพบเด็กนักเรียนในโรงเรียนป่วยให้แยกเด็กนักเรียนเพื่อฝ้ระวังและดำเนินการอย่างเหมาะสม
9.ให้ทุกหน่วยงานจัดวางเจลแอลกอฮอร์ล้างมือไว้ในจุดให้บริการสำหรับประชาชน และบุคลากรในสังกัดให้เพียงพอ 10.ให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่สถานศึกษาในสังกัดและบุคลากรทางการศึกษาในเรื่องนี้ให้ถือปฎิบัติอย่างเคร่งครัด
11. ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ให้สช.ดำเนินการตามมาตรการทางการบริหารเพื่อให้บรรลุผลของประกาศฉบับนี้ต่อไป และเมื่อดำเนินการเป็นประการใดแล้ว ให้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นระยะๆ
12.ให้องค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาถึงความเหมาะสมในกิจกรรมการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ โดยกิจกรรมใดที่มีการชุมนุม หรือ พบปะของบุคคลจำนวนมากที่อาจส่งผลโดยตรงให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาให้ดำเนินการชะลอ หรือระงับการดำเนินการไว้ก่อน
13.ให้สำนักบูรณาการกิจการการศึกษา เป็นหน่วยงานประสานกลางเกี่ยวกับการดำเนินงานตามมาตรการฉบับนี้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563