สพฐ.เตรียมศึกษาความเหมาะสม ตั้ง สพม.ครบทุกจังหวัด

สพฐ.เดินหน้าตั้งสพม.ครบทุกจังหวัด

เลขาธิการ กพฐ.เดินหน้าตั้งสพม.ครบทุกจังหวัด พร้อมเสนอข้อมูลการปรับโครงสร้างสพม.ให้ก.ค.ศ.พิจารณาการจัดสรรอัตรากำลัง ขณะที่การปรับโครงสร้างสพฐ.รอปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หลังได้อำนาจการโยกย้ายแต่งตั้งคืน

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ตนได้ชี้แจงให้ที่ประชุมรับทราบถึงมติคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่เห็นชอบให้การปรับโครงสร้างของสพฐ.ด้วยการคืนอำนาจการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรา 53(3)และ(4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้มีการตั้งอ.ก.ค.ศ.จังหวัด และตั้งอ.ก.ค.ศ.สพฐ.เพื่อให้อำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายมาอยู่ที่หน่วยงานต้นสังกัด

ดังนั้นตนจึงมอบหมายให้สำนักนิติการของสพฐ.ไปแก้ไขปรับไขกฎหมายทีเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 16 เรื่องการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 19 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค หลังจากนั้นเสนอการปรับแก้ไขกฎหมายให้ รมว.ศธ.พิจารณา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นที่การให้เพิ่มสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ครบทุก 77 จังหวัดนั้น หลังจากตนได้หารือกับ รมว.ศธ.ในเรื่องนี้แล้ว โดยรมว.ศธ.มีข้อสั่งการในเรื่องนี้มาว่า เป็นเรื่องดีที่เราจะเพิ่ม สพม.ให้ครบทุกหวัด เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการศึกษาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่การเพิ่มสพม.ให้ครบทุก 77 จังหวัดถือว่ามากเกินไป ดังนั้นจึงมอบให้สำนักมัธยมศึกษาตอนปลายและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารของสพฐ.ไปศึกษาความเหมาะสมในการขยายโดยยึดหลักเกณฑ์ควาสะดวกสบายในคมนาคม ค่าสัมปสิทธิ์จำนวนโรงเรียน นักเรียน และครู เช่น จังหวัดใดมีพื้นที่ห่างไกลกันมาก็ให้จัดตั้ง สพท.จังหวัดละ 1 แห่ง ส่วนจังหวัดใดที่ไม่ไกลกันมากก็ให้รวมสองจังหวัดเป็น 1 เขตพื้นที่ ขณะเดียวกันตนได้เสนอเรื่องการปรับโครงสร้าง สพม.ให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อเพิ่มอัตรากำลังบุคลากรเข้าไปทดแทนการจัดตั้งสพม.ใหม่และผู้ที่ย้ายไปประจำคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ด้วย

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563