"ณัฏฐพล"มั่นใจงบฯ63 อืดไม่กระทบจ่ายเงินเดือน
เสมา 1 มั่นใจมีเงินเดือนจ่ายครู-ลูกจ้างที่ใช้งบฯดำเนินงาน แม้ พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ยังติดปัญหา ส.ส.เสียบบัตรแทน พร้อมแจงปรับแผนจัดทำงบฯ 2564 ของ ศธ.
วันนี้ (4 ก.พ.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้หารือร่วมกับผู้แทนจากสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณ ปีงบฯ 2564 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งตนได้แจ้งไปว่ามีหลายเรื่องที่ ศธ.จะดำเนินการตามแนวทางเดิมไม่ได้ ขณะเดียวกันต้องปรับลดงบฯบางส่วนที่เคยทำมาในอดีต เช่น การจัดอบรมสัมมนาต่างๆ เมื่อมีการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ สามารถทำการอบรมได้ที่โรงเรียน หรือ จังหวัด ที่มีห้องประชุมแล้วก็จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ และอาจเพิ่มการอบรมในเรื่องภาษาอังกฤษและดิจิทัล ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการศึกษาไทยตามนโยบายของรัฐบาลที่วางไว้ ทั้งนี้ คาดว่าการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพจะสมบูรณ์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนตัวเลขงบฯปี 2564 จะเป็นเท่าไรนั้น จะดูรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เพราะเท่าที่ดูเบื้องต้นพบว่าแต่ละหน่วยงานในสังกัด ศธ.ของบฯมาในตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นต้องมาดูว่า ส่วนใดตรงกับนโยบายรัฐบาล หรือ งบฯส่วนไหนที่ต้องลดลง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับงบประมาณปีงบฯ 2563 ที่ยังไม่สามารถประกาศใช้ได้ เพราะมีข้อร้องเรียนเรื่องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกัน ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ใช้งบฯดำเนินการจ้าง ไม่ได้รับเงินเดือนนั้น ตนขอชี้แจงว่า ศธ.ได้เตรียมงบฯในส่วนของเงินเดือนไว้แล้วจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หากเลยจากนี้แล้ว พ.ร.บ.งบฯปี 2563 ยังไม่สามารถใช้ได้ ก็คงต้องหางบฯในส่วนอื่นมาเพิ่มเติม ดังนั้น งบฯเงินเดือนไม่มีปัญหา ยกเว้นมีข้อผิดพลาดในการบริหารของแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็มีบ้างที่ทำให้บางคนไม่ได้รับเงินเดือน โดยทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้ว อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการเรื่องงบฯได้จบภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปดูแผนสำรองว่าจะดำเนินการอย่างไร จะมีการประหยัดงบฯในส่วนไหนได้ เพื่อให้การดำเนินการในแต่ละวันไม่มีปัญหา โดยเฉพาะงบฯที่นำมาใช้จ่ายเงินเดือน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด “นายณัฏฐพล กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563