ครูต้องเปลี่ยนวิธีสอนรับหลักสูตรใหม่
เลขาธิการ กพฐ.เผยคืบหน้าปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาพื้นฐาน ขณะที่ครูต้องปรับวิธีสอนรองรับหลักสูตรใหม่
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2551 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการการปรับปรุงหลักสูตรดังกล่าว ได้เปลี่ยนเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะแล้วโดยอยู่ระหว่างปรับแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นจะเสนอให้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหลักสูตรฐานสมรรถนะในหลักการเบื้องต้นเกือบจะมีความสมบูรณ์ครบ 100% แล้ว เหลือเพียงเก็บข้อมูลรายละเอียดในกลุ่มสาระวิชาการเรียนรู้หลักเท่านั้น โดยการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานครั้งนี้ เพราะโลกและเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่หลังจากไม่ได้ปรับมานานตั้งแต่ปีการศึกษา 2551
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักสูตรฐานสมรรถนะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ปรับปรุงใหม่นี้ จะเป็นหลักสูตรที่อิงมาตรฐานสากลเน้นพัฒนาเด็กตามศักยภาพและตามความถนัดของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาครูผู้สอนยังยึดติดกับการสอนตามหนังสือและเน้นให้เด็กท่องจำ มีอะไรก็ใส่ ๆ ในหัวเด็กอย่างเดียว เพราะเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานทางวิชาการแตกต่างกัน
"จากนี้ไปเมื่อหลักสูตรฐานสมรรถนะได้ใช้จริงแล้ว ครูจะต้องปรับกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนใหม่ โดยให้เด็กได้เลือกเรียนตามความถนัดของตัวเองและครูต้องดึงศักยภาพของเด็กออกมาเติมเต็มให้ได้ ขณะเดียวกันกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในการผลิตครูแล้ว ซึ่งขณะนี้ สพฐ.กำลังเตรียมข้อมูลว่า เราต้องการครูในอนาคตมีคุณสมบัติแบบไหน จากนั้น อว.จะรับข้อมูลนี้ไปปรับหลักสูตรการผลิตครู เพื่อให้ตรงกับความต้องการต่อไป"ดร.อำนาจกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563