เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา ครั้งที่ 1/2563 โดยมีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และคณะกรรมการสภาการศึกษา เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่จัดทำโดยคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นฝ่ายเลขานุการ ซึ่งแผนดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และมีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ
โดยมีแผนงานเพื่อปฏิรูปการศึกษาที่สำคัญ 7 เรื่อง คือ
1) การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่และกฎหมายลำดับรอง ซึ่งได้มีการทบทวนและเตรียมปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานตามข้อกฎหมาย
2) การปฏิรูปการพัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน โดยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เพื่อให้การดำเนินงานด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยมีความต่อเนื่อง ทั่วถึง และเท่าเทียม
3) การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงผู้ด้อยโอกาสทุกช่วงวัยให้สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4) การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิต คัดกรอง และพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและอาจารย์ โดยมีการวางแผนการผลิตครูระบบปิด เพื่อพัฒนาครูให้มีสมรรถนะสูงขึ้น รวมทั้งเตรียมดำเนินการเรื่องการขอวิทยฐานะของครู ให้มีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นผลเชิงประจักษ์
5) การปฏิรูปการจัดการเรียนการสอน เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยมีการศึกษาวิจัยและนำร่องการใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในระดับชั้น ป.1-ป.3 ในปีงบประมาณ 2562 พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนให้เหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย
6) การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และยกระดับคุณภาพของการศึกษา โดยประกาศใช้พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เพื่อกระจายอำนาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษานำร่อง เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงาน และจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น
7) การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล ได้จัดทำโครงการดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะออกแบบและจัดทำระบบฟังก์ชั่นการใช้งานภายในแพลตฟอร์ม ให้แล้วเสร็จภายในปี 2563
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการแต่งตั้งกรรมการและอนุกรรมการต่าง ๆ ดังนี้
- แต่งตั้งบาทหลวงเดชา อาภรณ์รัตน์ เป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรศาสนาอื่น ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
- แต่งตั้งนายวณิชย์ อ่วมศรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา การวัดและประเมินผลการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ พร้อมทั้งเป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านมาตรฐานการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ และคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายการศึกษาและกลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ (เพิ่มเติม)
- แต่งตั้ง รศ.จุลนี เทียนไทย เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายการศึกษาและกลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ และคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการวิจัยการศึกษา (เพิ่มเติม)
- แต่งตั้งศาสตราจารย์ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านระบบฐานข้อมูลตัวชี้วัด และคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านระบบทรัพยากรและการเงินเพื่อการศึกษา (เพิ่มเติม)
- แต่งตั้งศาสตราจารย์อำนาจ วงศ์บัณฑิต เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านกฎหมายการศึกษา (เพิ่มเติม)
- แต่งตั้งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, บาทหลวงเดชา อาภรณ์รัตน์ และนางสาวสุทธาสินี วัชรบูล เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม กีฬาและภูมิปัญญา (เพิ่มเติม)
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น: สรุป
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.: รายงาน
27/1/2563
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.