นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้ลงนามคำสั่งด่วนที่สุดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรื่อง การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยหนังสือฉบับนี้แจ้งไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตเนื่องจากพบว่า สถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดโรคปอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีนและแพร่ขยายเข้าสู่ประเทศไทย โดยเด็กจะเป็นผู้รับเชื้อได้ง่าย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แจ้งเตือนผ่านสื่อให้เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สพฐ.จึงขอให้ สพท.ประชาสัมพันธ์ เฝ้ระวังการแพร่ระบาดและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ในโรงเรียนตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้ง ดังนี้ วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1.ดื่มน้ำอุ่น เมื่อรู้สึกกระหายน้ำ 2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม 3.หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด 4.สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน 5.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ตตัว 6.หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้กับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย 7.หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ 8.ห้ามรับประทานของดิบ รับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย มีสารอาหารครบถ้วน 9.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และ 10. หากพบนักเรียนมีอาการไข้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดยาก ปวดศีรษะและลำตัว มีอาการไอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีน้ำมูก ให้รีพาไปพบแพทย์ หรือโทรแจ้งสายคนกรมควบคุมโรค โทร 1422
อย่างไรก็ตาม หากพบผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรคให้ประสานและส่งต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขทันทีและหากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียนให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563
สพฐ.แจ้งเขตพื้นที่ฯ เฝ้าระวังการแพร่ระบาดและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในโรงเรียน
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงนามในหนังสือ ด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในโรงเรียน ดังนี้
- ดื่มน้ำอุ่น เมื่อรู้สึกกระหายน้ำ (เด็ก 30 – 50 ซีซี, ผู้ใหญ่ 50 – 80 ซีซี)
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด
- สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว
- หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้กับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย
- หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ
- ห้ามรับประทานของดิบ รับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย มีสารอาหารครบถ้วน
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- หากพบนักเรียนมีอาการไข้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดยาก ปวดศีรษะและลำตัว มีอาการไอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีน้ำมูก ให้รีบพาไปพบแพทย์ หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ทั้งนี้ หากพบผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรค ให้ประสานและส่งต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขทันที และหากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียน ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน
ที่มา ศธ.360 องศา