นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อคดีสะเทือนขวัญ ชิงทรัพย์ร้านทองและฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสามรายบาดเจ็บสี่ราย หนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุสองขวบ และคนร้ายเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง นั้น นายรัชชัยย์ฯเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้ก่อเหตุดังกล่าวจึงไม่ควรนำไปโยงถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่าจะต้องรับผิดชอบใดๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ก็ควรต้องมีการทบทวนวิธีการคัดสรรบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเพราะปัจจุบันนั้นใช้วิธีการสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสอบเป็นเพียงการวัดความรู้ แต่ไม่ได้วัดความมีภาวะผู้นำ ไม่ได้วัดความมีคุณธรรมของการเป็นผู้บริหาร ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่โรงเรียนมัธยมศึกษาอยู่ภายใต้การดูแลของกรมสามัญศึกษา วิธีการคัดเลือกผู้บริหารโรงเรียนนั้นไม่ได้ใช้วิธีการสอบ แต่ใช้วิธีการที่เรียกว่าการไต่ประสบการณ์ (On Job Training) ดังนี้
1. โรงเรียนจะพิจารณาแต่งตั้งคุณครูที่มีประสบการณ์การสอนประมาณห้าหกปีหรือมากกว่านั้นและมีภาวะผู้นำ มีคุณธรรมที่ยอมรับได้ให้ทำหน้าท่ีเป็นหัวหน้าหมวดวิชาหรือหัวหน้ากลุ่มสาระ
2. คุณครูที่ทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มสาระ เมื่อได้ทำหน้าที่สักสองสามปีก็จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการ/ฝ่ายธุรการ/ฝ่ายปกครอง/ฝ่ายบริการ เวียนไปจนได้ประสบการณ์ครบทุกฝ่าย
3.เมื่อโรงเรียนใดมีตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นๆจะพิจารณาเสนอชื่อคุณครูที่ทำหน้าที่และมีประสบการณ์ในการเป็นหัวหน้าฝ่ายต่างๆ อีกทั้งมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ส่งไปท่ีสำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดและเสนอไปที่กรมสามัญศึกษาเพื่อพิจารณามีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่หรือผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน (ปัจจุบันเรียกว่ารองผู้อำนวยการ) แล้วแต่กรณี
4. หากมีตำแหน่งอาจารย์ใหญ่หรือผู้อำนวยการโรงเรียนว่างลง สำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดก็จะแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนทั้งจังหวัด หรือผู้บริหารโรงเรียนอาวุโส ที่เป็นที่ยอมรับได้ของบรรดาผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัด เพื่อเป็นกรรมการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหรืออาจารย์ใหญ่แล้วแต่กรณี โดยบรรดากรรมการคัดเลือกทุกท่านนั้นจะรู้พฤติกรรมการทำงานและพฤติกรรมส่วนตัวของผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนทุกคนเนื่องจากได้มีโอกาสทำงานร่วมกันในจังหวัด การคัดเลือกก็จะยึดหลักโดยคัดเลือกจากผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโสที่มีผลงานแต่ที่สำคัญคือต้องเป็นคนดี ไม่มีปัญหาในการบริหารงาน ไม่หมกมุ่นอบายมุข เป็นที่ยอมรับได้ ดังนั้นปัญหาการวิ่งเต้นจะไม่มีเนื่องจากคณะกรรมการทุกคนช่วยกันดูในเรื่องของพฤติกรรม การตัดสินก็ไม่ได้ใช้วิธีการการโหวตเสียงข้างมากแต่เป็นเรื่องการพูดจากันด้วยเหตุผล
เมื่อพิจารณาเสร็จสิ้นก็จึงส่งชื่อไปให้อธิบดีกรมสามัญศึกษาพิจารณาลงนามแต่งตั้ง ดังนั้นบรรดาผู้บริหารโรงเรียนมัธยมในยุคก่อนๆนั้นจึงไม่มีปัญหาด้านการบริหารงาน เห็นได้จากในอดีตจะไม่มีตำแหน่งนิติกรประจำสำนักงานสามัญศึกษาจังหวัด เนื่องจากไม่มีคดีที่จะต้องพิจารณา ผลงานการจัดการศึกษามัธยมศึกษาในยุคที่มีกรมสามัญศึกษาจึงไม่มีปัญหาด้านการจัดการศึกษาตกต่ำเพราะผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหรือตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่ามีภาวะผู้นำมีประสบการณ์ในการช่วยงานบริหารโรงเรียนมาก่อน การคัดเลือกคนให้ทำหน้าท่ีเป็นผู้บริหารโรงเรียนในยุคนั้นยึดหลักการสำคัญคือต้องเลือกคนดีที่มีประสบการณ์ในการบริหารนำหน้าและเป็นที่ยอมรับได้ของคณะกรรมการคัดเลือกทุกคน สำหรับความรู้นั้นสามารถมาเรียนรู้เพิ่มเติมได้
นายรัชชัยย์ ฯยังได้เปิดเผยอีกว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงในเรื่องการจัดการศึกษาในปัจจุบันคือคุณครูที่บรรจุรับราชการได้ไม่กี่ปี เมื่อปฏิบัติหน้าท่ีครบระยะเวลาที่เกิดสิทธิในการไปสมัครสอบผู้บริหารได้ต่างก็ไปสอบเป็นผู้บริหารโรงเรียนทั้งๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหาร ไม่เคยได้รับการเพาะบ่มพฤติกรรมให้เกิดภาวะผู้นำ ที่สำคัญคือกระทรวงศึกษาธิการก็จะสูญเสียคุณครูที่ดีมีฝีมือแต่ไปเพิ่มผู้บริหารที่ขาดประสบการณ์ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการต้องกลับมาพิจารณาทบทวนโดยอาจสร้างแรงจูงใจหรือผลตอบแทนที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอน
ขอบคุณข้อมูลจาก นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย