"อำนาจ"เล็งใช้เอไอกระตุ้นเด็กเรียนรู้
เลขาธิการ กพฐ. เตรียมใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ กระตุ้นเด็กเรียนรู้ และพัฒนาการศึกษาในอนาคต
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ดร.อำนาจ วิชยานุวัติเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้ไปศึกษาดูงานเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) ร่วมกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณรมว.ศึกษาธิการ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ประชุมหารือกับผู้บริหารของบริษัทหัวเหว่ยสาขาปักกิ่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับการนำเอไอมาพัฒนาการศึกษา ซึ่งประเทศจีนตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในค.ศ.2035จีนจะบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาการศึกษา
เพื่อเป็นมหาอำนาจทางการศึกษาซึ่งต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถเข้ามาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้อย่างดีเยี่ยมและขณะนี้การเรียนรู้ต่างๆก็เป็นรูปแบบเอไอหมดแล้ว ดังนั้นในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ก็จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้กับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยด้วย ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาครูให้มีความรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น หากครูยังสอนนักเรียนด้วยรูปแบบเดิมๆอยู่ก็คงตามไม่ทันโลกในศตวรรษที่ 21 อย่างแน่นอน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ตนมั่นใจว่าหากนำระบบเทคโนโลยีเอไอเข้ามาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษาจะช่วยให้เราเรียนรู้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอีกทั้งจะส่งผลกระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียนรู้มากขึ้น เพราะปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้อยู่ในรูปแบบที่หลากหลายทั้งเกมวิชาการการสร้างหุ่นยนต์ใช้งาน โดยเด็กจะตื่นตัวกับการเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งตนคิดว่าจะทำให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการคิดวิเคราะห์ได้ดีเนื่องจากได้เรียนรู้จริงลงมือปฎิบัติจริง
รวมถึงยังทำให้เด็กค้นพบความถนัดของงตัวเองอีกด้วยเพื่อที่ครูจะได้ส่งเสริมและสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามขณะนี้สพฐ.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และดูว่าเราต้องดำเนินการในเรื่องใดบ้างเช่น การแลกเปลี่ยนครูไปฝึกอบรมเรื่องเอไอที่ประเทศจีน เป็นต้น
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 21 มกราคม 2563