นายอำนาจ วิชายานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้ดำเนินการเก็บฐานข้อมูลนักเรียนเสร็จแล้วเหลือเพียงการเก็บรวบรวมข้อมูลข้าราชการครูเท่านั้น โดยการดำเนินการขณะนี้ สพฐ.ได้ประสานขอระบบฐานข้อมูลของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) มาดำเนินการในส่วนของการเก็บข้อมูลครูในสังกัดเองก่อน เนื่องจากข้อมูลครูจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลถึง 46 ข้อมูล เช่น ข้อมูลวิทยฐานะในปัจจุบัน ระดับการศึกษา วิชาเอกที่จบการศึกษามาสอนตรงสาขาหรือไม่ เป็นต้น ขณะเดียวกัน สพฐ.ยังได้เตรียมพื้นที่การเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อรองรับฐานข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าการจัดทำข้อมูลบิ๊กดาต้าของ สพฐ.จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ทั้งนี้หากการดำเนินการจัดทำบิ๊กดาต้าเสร็จ สพฐ.ก็พร้อมส่งต่อข้อมูลไปให้ เพื่อรวมเป็นฐานข้อมูลดาต้าเซนเตอร์ของ ศธ.ต่อไป
“หากฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าของ สพฐ.ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ ผมเชื่อว่าจะสามารถนำข้อมูลด้านต่างๆ ที่มีอยู่มาแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะปัญหานักเรียนซ้ำซ้อน เด็กผี เด็กออกนอกระบบ รวมถึงยังสามารถช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด เพราะฐานข้อมูลดังกล่าวสามารถเรียกดูข้อมูลได้แบบอัพเดทรายวินาที ดังนั้นจะทำให้เราทราบถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทั้งหมด เช่น เมื่อผลคะแนนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ของนักเรียนในโรงเรียนใดมีคะแนนโอเน็ตต่ำในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ก็สามารถเรียกดูข้อมูลได้ว่าโรงเรียนนี้มีครูวิทยาศาสตร์จำนวนที่เพียงพอหรือไม่ หากเพียงพอแล้วคะแนนโอเน็ตยังต่ำก็ต้องพัฒนาคุณภาพของครู เป็นต้น นอกจากนี้ฐานข้อมูลดัวกล่าวยังสามารถรู้ถึงอัตรากำลังของครูว่าโรงเรียนไหนขาดแคลนครูหรือไม่ ซึ่งเชื่อมต่อไปยังสถาบันการผลิตครูว่าเราขาดแคลนครูในสาขาวิชาใดบ้าง เพื่อสกัดการผลิตนักศึกษาครูล้นตลาด อย่างไรก็ตามสพฐ.เชื่อว่าฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าจะแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”เลขาฯ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563