นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันอังคารที่ 7 มกราคม 2563 ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบหลักการของหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารสถานศึกษา โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการปรับรายละเอียดของหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวตามความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม เพื่อให้ครอบคลุม เกิดประโยชน์ต่อทางราชการเป็นสำคัญ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และให้นำเสนอในที่ประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไป
2. เห็นชอบให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วมีมติว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการ ว 13 / 2556 ให้สามารถขอทบทวนมติ ก.ค.ศ. ได้ ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารายใดเห็นว่าผลการพิจารณานั้น อาจคลาดเคลื่อนให้เสนอขอทบทวนผลการพิจารณาได้ ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. มีหนังสือแจ้งมติ ก.ค.ศ. ทั้งนี้ การทบทวน ก.ค.ศ. จะพิจารณาจากเอกสารที่ผู้ขอรับการประเมินยื่นไว้เดิม โดยผู้ขอรับการประเมินจะต้องชี้แจงในประเด็นที่เห็นว่า ก.ค.ศ. พิจารณามีความคลาดเคลื่อนจากเอกสารหลักฐานที่ได้เสนอไว้เดิม
3. เห็นชอบ รายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
องค์ประกอบในการคัดเลือก มีการประเมิน 3 ภาค คือ
ภาค ก สมรรถนะในการบริหารงานในหน้าที่ (100 คะแนน)
ภาค ข ความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ (150 คะแนน)
ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (100 คะแนน)
โดยทั้ง 3 ภาค ใช้วิธีการประเมิน
วิธีการและเงื่อนไขการรับสมัคร
ผู้สมัครยื่นสมัครตามแบบและวิธีการที่กำหนดไว้ในประกาศรับสมัคร หากตรวจสอบภายหลังว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติต้องถูกเพิกถอนคำสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
วิธีการคัดเลือก
ประกาศรับสมัครก่อนวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 7 วัน ดำเนินการรับสมัคร ไม่น้อยกว่า 7 วัน และดำเนินการสอบภาค ก ก่อน หากผู้สมัครสอบภาค ก ไม่ผ่าน ไม่มีสิทธิเข้ารับการประเมินภาค ข และ ภาค ค
เกณฑ์การตัดสิน
- ผู้ผ่านภาค ก ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงมีสิทธิเข้ารับการ ประเมิน ภาค ข และ ภาค ค
- ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนแต่ละภาคไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 60 โดยเรียงลำดับที่ได้คะแนนรวมทั้ง 3 ภาค จากมากไปหาน้อย
เงื่อนไขระยะเวลาการขึ้นบัญชี
- กำหนดกรอบระยะเวลาการขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอาจกำหนดให้มีหรือไม่มีการขึ้นบัญชีก็ได้
วิธีการเรียกตัวและเงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้ง
1. บรรจุและแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด
2. บรรจุและแต่งตั้งเท่ากับจำนวนตำแหน่งว่าง
3. หากผู้ได้รับการคัดเลือกรายใดไม่มารายงานตัว หรือ ไม่สมัครใจที่จะรับบรรจุและแต่งตั้งให้ยกเลิกบัญชีเฉพาะราย
4. เมื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเลือกสถานศึกษาใดแล้วจะเปลี่ยนแปลงมิได้
กำหนดข้อตกลงในการปฏิบัติงานในหน้าที่
ข้อตกลงมีสาระสำคัญว่า “รองผู้อำนวยการสถานศึกษาจะต้องปฏิบัติงานให้ตามกรอบภารกิจของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบาย สอศ. และยอมรับที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุตามองค์ประกอบ ตัวชี้วัด และวิธีการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่”
การประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา
1. กำหนดระยะเวลา 1 ปีและมีการประเมิน 2 ครั้ง ๆ ละ 6 เดือน
2. ให้ สอศ. ตั้งคณะกรรมการการประเมิน และดำเนินการประเมินตามองค์ประกอบ ตัวชี้วัดคะแนนการประเมินเกณฑ์การตัดสิน และวิธีการประเมิน ตามที่ สอศ. กำหนด
4. เห็นชอบ การแต่งตั้งอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. ที่ตั้งในส่วนราชการ เพื่อให้มีผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่สอดคล้องกับบริบทและการปฏิบัติงานในปัจจุบัน รวม 3 คณะ ดังนี้
1. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ.สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2. รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
3. นายชาย มะลิลา รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
5. เห็นชอบ แต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 1 ราย คือ
- นายชาติชาย เกตุพรหม ตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัย วิทยฐานะผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง
ธาริณี นาคเมธี : ภาพ/ข่าว
ศรายุทธ มาทัพ หัวหน้ากลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ : Editor
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 7 มกราคม 2562