กราบเรียน ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( ฯพณฯ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ)
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนพี่น้องเพื่อนครูและผู้บริหารโรงเรียนทั้งประเทศไทย ทุกสังกัด กราบขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้ฯพณฯและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ สมบูรณ์ พูลลาภ ในสิ่งอันพึงปรารถนา ตลอดไป อย่างไรก็ตาม ผมยังขออนุญาตเป็นตัวแทนพี่น้องเพื่อนครูทั้งประเทศ ขอของขวัญปีใหม่ 2563 จาก ฯพณฯ ดังนี้
1. ขอให้ ฯพณฯ ดำเนินการให้คุณครู ทำหน้าที่สอนอย่างเดียว อย่าให้ต้องทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่สอน เพราะ เมื่อพวกผมหรือ ฯพณฯ อยู่บ้านและสอนลูกให้เป็นคนดี เป็นคนประหยัด ห่างไกลยาเสพติด มีจิตสาธารณะ ฯลฯ พวกผมหรือ ฯพณฯก็ไม่ต้องทำแผนงาน โครงการ เป็นเอกสารที่บ้าน ไม่ต้องเตรียมเอกสารเพื่อรอรับการประเมินจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือจากผู้หนึ่งผู้ใด ทุกอย่างมาจากใจ มาจากจิตวิญญาณของความเป็นพ่อ แม่ โดยจะพร่ำสอนในทุกโอกาสที่ทำได้ และในทำนองเดียวกัน เมื่อพวกผมไปทำงานที่โรงเรียน พวกผมมีหน้าที่เป็นครู พวกผมเรียนครูมาสี่ห้าปี ถูกปลูกฝังให้มีจิตวิญญาณความเป็นครูจากสถาบันการศึกษา นอกจากนี้จากบทบาทหน้าที่ที่ต้องใกล้ชิดนักเรียนก็จะเกิดความรักความผูกพันโดยเห็นว่านักเรียนคือลูก ดังนั้นด้วยจิตวิญญาณดังกล่าวพวกผมก็จะพร่ำสอนอบรมให้บรรดาลูกศิษย์ของพวกผมเป็นคนดี มีศิลธรรม มีความซื่อสัตย์ มัธยัสถ์ ห่างไกลยาเสพติด โดยไม่จำเป็นต้องทำเป็นแผน ไม่ต้องทำเอกสาร ไม่ต้องมีใครมาประเมิน ทั้งนี้พวกผมจะได้ไม่ต้องทิ้งห้องเรียนไปเสียเวลาทำเอกสารเพื่อรับการประเมิน ไม่ต้องใช้งบประมาณ และยังประหยัดงบประมาณอีกมากมาย
2. ขอให้ ฯพณฯ ดำเนินการให้คุณครูและผู้บริหารโรงเรียนที่เคยยื่นเสนอผลงานเพื่อรับการประเมินให้ได้เลื่อนวิทยะฐานะตามเกณฑ์ ว 13 แล้วไม่ผ่านนั้น ให้มีโอกาสยื่นเสนอใหม่เนื่องจากผลงานที่พวกผมยื่นไปแล้ว และ ก.ค.ศ.มีมติให้ไม่ผ่านนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่เคยได้รับการพิจารณาในปีก่อนๆและได้รับการประเมินให้ผ่าน นอกจากนี้ผลงานดังกล่าวยังผ่านการพิจารณามาแล้วจากส่วนราชการต้นสังกัด (สพฐ) มาแล้ว
3. ขอให้ ฯพณฯ ดำเนินการให้มีการเลื่อนวิทยะฐานะตามหลักเกณฑ์ ว 17 เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาคุณครูมีกำลังใจในการสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนรวมถึงการสร้างงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา เนื่องจากสามารถนำไปใช้ในการขอเลื่อนวิทยะฐานะตามหลักเกณฑ์ ว 17 ได้ แต่ต่อมาก็มีการสั่งยกเลิกส่งผลให้ปัจจุบันไม่มีนวัตกรรมและผลงานวิจัยจากคุณครู
4. ขอให้ ฯพณฯ ดำเนินการให้มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนของนักเรียนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงของโลกและให้ลดวิชาการเรียนให้น้อยลงแต่สอดคล้องกับความต้องการในการประกอบอาชีพ ของนักเรียน
5. ขอให้ ฯพณฯ โปรดสั่งการให้ยกเลิกการทํา PLC อย่างจริงจังและไม่ให้นําเอาเรื่องดังกล่าวไปผูกติดกับการเลื่อนวิทยฐานะ เพราะปกติพวกผมก็ได้มีการพูดจากันในเรื่องการแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพผู้เรียนกันอยู่แล้วโดยได้ทำในโอกาสและเวลาอันเหมาะสม
6. ขอให้ ฯพณฯ ได้โปรดดำเนินการให้ข้าราชการครูบรรจุใหม่มีสิทธิยื่นคําร้องขอย้ายกลับภูมิลำเนาได้เมื่อบรรจุครบสองปี เพราะคุณครูจะได้มีความหวังและโอกาสในการไปดูแลพ่อแม่และครอบครัวอันจะทำให้สังคมเข้มแข็ง ที่ขอนี้เป็นแค่ขอสิทธิมิได้หมายความว่าทุกคนจะได้ย้ายตามประสงค์ ในขณะที่ข้าราชการสังกัดอื่นนั้นสามารถยื่นคำร้องขอย้ายได้เมื่อบรรจุรับราชการครบหนึ่งปี
7. ขอให้ ฯพณฯ โปรดดำเนินการให้มีการประเมินโรงเรียนเพียงครั้งเดียว/ปี เพราะการเตรียมรับการประเมินแต่ละครั้งต้องเตรียมเอกสารมากมายเพื่อรับการประเมิน ส่งผลให้พวกผมต้องทิ้งห้องเรียนเพื่อการนี้ ผลเสียจึงตกกับนักเรียน
8. ขอให้ ฯพณฯ ลงนามประกาศเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัด เพราะเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของสภาการศึกษามาแล้วและสภาการศึกษาก็ลงมติเห็นชอบให้ตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดให้ครบทุกจังหวัดได้ พวกผมขอให้ ฯพณฯ โปรดเห็นใจข้าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนต้องเดินทางข้ามภูเขาหลายลูกเป็นเวลาร่วมสามชั่วโมงเพื่อไปติดต่อราชการกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังมีเรื่องเช่นนี้อีกมากมายถึง 34 จังหวัด
9. ขอให้ ฯพณฯ ดำเนินการให้ครูอัตราจ้างที่จ้างด้วยเงินงบประมาณของทางราชการได้รับการบรรจุ เป็นข้าราชการครู หลังจากผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ สพฐ กำหนด ไม่ใช่หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด เพราะ ก.ค.ศ.ไม่มีความรู้ความชำนาญด้านการศึกษา ทั้งนี้ครูอัตราจ้างเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์การสอน และผ่านการประเมินด้านการจัดการเรียนการสอนมาทุกปี และขอให้ยกเลิกการเรียก ครูอัตราจ้างว่า “ลูกจ้างชั่วคราว” เพราะทุกท่านล้วนทำหน้าท่ีครูไม่แตกต่างจากคุณครูที่เป็นข้าราชการประจำ ควรยกย่องให้เกียรติในความเป็น “ครู”
10. ขอให้ ฯพณฯ โปรดกำหนดเป็นนโยบายที่สำคัญในเรื่องการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ “บกพร่องทางการเรียนรู้” (เด็ก LD) ทั้งนี้เพราะเด็กเหล่านี้ล้วนเป็นคนไทยที่พึงได้รับสิทธิในการดูแลใส่ใจในเรื่องการจัดการศึกษาตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ประกอบกับเด็กกลุ่มนี้ล้วนเป็นอนาคตของชาติ เป็นเด็กที่มีไอคิวปกติ มีความสามารถหลากหลายด้าน ซึ่งในสังคมไทย วัดความสามารถของเด็กเพียงแค่การอ่านเขียนการท่องจำการสอบ ทำให้เด็กที่อ่านเขียนเรียนยากอย่างเด็กแอลดี กลายเป็นตัวประหลาดในห้องทั้งๆที่พวกเขาอาจจะมีความสามารถด้านอื่นเช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ
ของขวัญ 10 ชิ้นนี้เป็นของขวัญที่พวกผมอยากได้มานานแล้ว ของขวัญทั้ง 10 ชิ้นนี้ ไม่ต้องลงทุน ไม่เสียค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณใดๆเลย และเป็นของขวัญที่จะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษา ขอเพียงแค่ ฯพณฯ “สั่งการโดยเร็ว” เท่านั้น การศึกษาของชาติก็จะพลิกผันไปในทางที่ดีเป็นอย่างยิ่ง หวังว่า ฯพณฯ จะกรุณาให้ความเมตตาให้เป็นของขวัญปีใหม่ ปี 2563 นี้ พวกผมสัญญว่าจะตั้งใจทำหน้าท่ีให้เต็มที่เพื่อให้เกิดผลดีต่อการศึกษาของชาติบ้านเมืองต่อไปและจะไม่ลืมพระคุณของ ฯพณฯ ตลอดไป
ขอแสดงความนับถือ
นายรัชชัยย์ ศรสุวรณ
นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา แห่งประเทศไทย ( ส.บ.ม.ท.)