ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เตรียมใช้ "หนี้สิน"เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง ผอ. รองผอ.รร.และกลุ่มสพท. ต้องมีหนี้ไม่เกิน 50% ของเงินเดือน


ข่าวการศึกษา 2 ธ.ค. 2562 เวลา 12:02 น. เปิดอ่าน : 16,012 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

เตรียมใช้ "หนี้สิน"เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง ผอ. รองผอ.รร.และกลุ่มสพท. ต้องมีหนี้ไม่เกิน 50% ของเงินเดือน

เล็งใช้"สัดส่วนหนี้"เป็นเกณฑ์คัดเลือกผอ.รร ลั่นเพื่อสะท้อนคุณภาพบริหารจัดการชีวิตตัวเอง ก่อนไปเป็นผู้บริหารสถาบัน

เตรียม ใช้ "หนี้สิน"เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง ผอ. รองผอ.รร.และกลุ่มสพท. ต้องมีหนี้ไม่เกิน50% ของเงินเดือน ชี้ปัญหาหนี้ สะท้อนว่าบริหารจัดการตัวเอง ได้ดีแค่ไหน ก่อนไปบริหารจัดการโรงเรียน

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ว่า ตนต้องการให้มีการปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารใหม่ ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงผู้บริหารสถานศึกษาเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ด้วย เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นนักบริหารที่สำคัญในการเป็นผู้นำของการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ดังนั้นหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก ตนจึงต้องการให้มีการดำเนินการแบบเข้มข้น และคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะต้องมีความรู้ด้านดิจิทัล และภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานของผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งต้องมีความรู้ที่ล้อไปกับการบริหารจัดการโรงเรียนตัวเองให้มีคุณภาพ

 

ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายถามถึงการวางรากฐานที่เหมาะสมของผู้บริหารโรงเรียนในอนาคตจะต้องมีหนี้สินไม่เกิน ร้อยละ 50 ของเงินเดือนนั้น เรื่องนี้ตนต้องการให้เป็นตัวมาตรฐานหนึ่งที่น่าจะมีไว้ เพราะถือเป็นการสร้างวินัยทางการเงินของผู้บริหารโรงเรียนจะต้องมีเงินเดือนเหลือติดในบัญชีให้ได้ครึ่งหนึ่งของเงินเดือน เช่น ได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาทแต่เป็นหนี้อยู่ 45,000 และจะมาเป็นผู้บริหารโรงเรียน ตนถามว่าจะมีความเหมาะสมหรือไม่ เป็นต้น อีกทั้งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการวางระบบแก้ปัญหานี้สินครูในอนาคตด้วย

“สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องมีคือการบริหารจัดการตัวเองให้ได้ และมีทักษะด้านต่างๆ เพราะขณะที่ประเทศไทยก้าวไปสู่โลกศตวรรษที่ 21 แล้ว แต่ครูหรือผู้บริหารยังไม่มีการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาและเทคโนโลยีเลยก็คงไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวอยู่ เพื่อจะออกแบบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกที่มีความเหมาะสม มีความเข้มข้นในการคัดเลือกผู้บริหาร ซึ่งยังไม่รู้ว่าการคัดเลือกผู้บริหารจะออกมาในรูปแบบไหน” รมว.ศธ. กล่าว

ด้านนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯกพฐ.) กล่าวว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์วิธีการคัดเลือกผู้บริหาร รมว.ศธ.ได้ให้นโยบายว่า หากจะเป็นผู้บริหารโรงเรียนเราต้องมีการวางแผนเรื่องการเงินที่ดี เพราะขณะนี้ปัญหาหนี้สินครูมีจำนวนมาก อีกทั้งเรื่องการเงินถือเป็นจรรยาบรรณหนึ่งของสังคมด้วย เช่น เราอาจจะดูว่าเงินเดือนในระบบของครูที่มีการเบิกจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลางมีเงินเดือนเหลือถึงครึ่งหนึ่งของเงินเดือนหรือไม่ และบุคคลนั้นสมควรเป็นผู้บริหารโรงเรียนหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมและเป็นต้นแบบให้แก่ข้าราชการครู โดยไม่ใช่คนที่อยากจะมาเป็นผู้บริหารมีหนี้ติดลบและได้มาเป็นผู้บริหารโรงเรียนแล้วแต่กลับมาทำเรื่องทุจริตขึ้น ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เพราะผู้บริหารต้องวางตัวให้ดีจะต้องเป็นกระจกเงาสะท้อนให้กับสังคม


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 2 ธันวาคม 2562

ศธ.จ่อเช็กบัญชีเงินเดือนว่าที่ผู้บริหารใหม่

เสมา 1 ชี้หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักบริหารต้องเข้ม จ่อเช็กบัญชีเงินเดือนว่าที่ผู้บริหารใหม่ สร้างวินัยทางการเงิน เป็นต้นแบบให้แก่ครู

วันนี้ (2ธ.ค.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาว่า ตนต้องการให้มีการปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารใหม่ โดยรวมไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ด้วย เนื่องจากคนกลุ่มนี้ถือเป็นนักบริหารที่มีความสำคัญในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ดังนั้นหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกก็อยากให้ดำเนินการแบบเข้มข้น และคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะต้องมีความรู้ด้านดิจิทัล และภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานของผู้บริหารสถานศึกษา ที่ต้องมีความรู้ล้อไปกับการบริหารจัดการโรงเรียนให้มีคุณภาพด้วย ส่วนประเด็นที่ถามกันมากถึงความเหมาะสมว่า ผู้บริหารโรงเรียนในอนาคตต้องมีหนี้สินไม่เกิน 50% ของเงินเดือนนั้น เรื่องนี้ก็อยากให้เป็นมาตรฐานหนึ่งที่น่าจะกำหนดไว้ เพราะถือเป็นการสร้างวินัยทางการเงินของผู้บริหารโรงเรียนที่ต้องมีเงินเหลือติดในบัญชีให้ได้ครึ่งหนึ่งของเงินเดือน เช่น ได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาทแต่เป็นหนี้อยู่ 45,000 แล้วมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนตนถามว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการวางระบบแก้ปัญหานี้สินครูในอนาคตด้วย

“สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องมี คือ การบริหารจัดการตัวเองให้ได้ และทักษะด้านภาษา เพราะขณะที่ประเทศไทยก้าวไปสู่โลกศตวรรษที่ 21 แล้ว แต่ครูหรือผู้บริหารยังไม่มีการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาและเทคโนโลยีเลยก็คงไม่ได้”รมว.ศึกษาธิการกล่าวและว่า ขณะนี้คณะทำงานกำลังปรับปรุงหลักเกณฑ์อยู่ เพื่อให้ได้หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกที่เหมาะสม และเพื่อให้มีความเข้มข้นในการคัดเลือกผู้บริหาร แต่ก็ยังไม่ทราบว่าการคัดเลือกผู้บริหารจะออกมาในรูปแบบไหน

ด้านดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการ ให้นโยบายในการปรับปรุงหลักเกณฑ์วิธีการคัดเลือกผู้บริหาร ว่า หากจะเป็นผู้บริหารโรงเรียนต้องมีการวางแผนเรื่องการเงินที่ดี เพราะขณะนี้ปัญหาหนี้สินครูมีจำนวนมาก อีกทั้งเรื่องการเงินถือเป็นจรรยาบรรณหนึ่งของสังคมด้วย โดยอาจจะดูว่า เงินเดือนในระบบของครูที่มีการเบิกจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลางแต่ละเดือนมีเงินเหลือถึงครึ่งหนึ่งของเงินเดือนหรือไม่ และคนนั้นสมควรเป็นผู้บริหารโรงเรียนหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมและเป็นต้นแบบให้แก่ครูด้วย ไม่ใช่คนที่อยากเป็นผู้บริหารมีหนี้ ติดลบ เมื่อมาเป็นผู้บริหารแล้วก็มาทำเรื่องทุจริต ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 2 ธันวาคม 2562

 

 


เตรียมใช้ "หนี้สิน"เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง ผอ. รองผอ.รร.และกลุ่มสพท. ต้องมีหนี้ไม่เกิน 50% ของเงินเดือนเตรียมใช้หนี้สินเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาทั้งผอ.รองผอ.รร.และกลุ่มสพท.ต้องมีหนี้ไม่เกิน50%ของเงินเดือน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

เปิดอ่าน 26,457 ☕ 24 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 508 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 678 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 771 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,376 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,059 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 953 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

วาซาบิ
วาซาบิ
เปิดอ่าน 13,133 ครั้ง

13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
เปิดอ่าน 12,076 ครั้ง

เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เปิดอ่าน 122,516 ครั้ง

กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ
เปิดอ่าน 75,718 ครั้ง

ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร
ตู้เก็บเอกสาร ในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร
เปิดอ่าน 19,776 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ