ครูกว่าพันแต่งดำ บุกสภาฯ ยื่นหนังสือกรรมาธิการการศึกษา ค้านร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ขอคืนใบประกอบวิชาชีพ ไม่เอาครูใหญ่ ขอที่ยืนให้บุคลากร 38 ค(2) ไม่เอาซิงเกิลคอมมานด์
เวลา 8.30 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท. ) ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา กว่า 1,000 คน แต่งชุดดำ ยื่นหนังสือถึง ประธานกรรมาธิการ(กมธ.) การศึกษา วุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.. และการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ รองประธาน กมธ.การศึกษา วุฒิสภา รับเรื่อง โดย นายธนชน มุทาพร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) กล่าวว่า การมาในครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องใน 3 ประเด็น คือ 1.ยื่นข้อเสนอปรับปรุงแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งองค์กรครูทั่วประเทศได้เสนอสิ่งที่ต้องการ 4 ประเด็นหลัก คือ ต้องการขอคืนใบประกอบวิชาชีพครู ไม่เอาใบรับรองความเป็นครู เพราะมีการหมกเม็ดหลายอย่าง , ขอคืนตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา ไม่เอาตำแหน่งครูใหญ่ ,ขอพื้นที่ให้บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามการให้โอนบุคลากรการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) ซึ่งไม่มีที่ยืนใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ โดยขอให้มีความก้าวหน้าเหมือนตำแหน่งอื่นๆ และขอให้การปรับโครงสร้างของ ศธ.ไม่เป็นซิงเกิลคอมมานด์ ให้ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้สั่งการเพียงผู้เดียว
นายธนชน กล่าวต่อว่า 2. ขอให้ทบทวน ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แยกงานบุคคลออกจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เพื่อให้ กศจ.มีเวลาในการทำงานประสานเชื่อมโยงการศึกษาให้มีคุณภาพ และคืนอำนาจการบริหารงานบุคคลให้ สพท. และจากการสำรวจความคิดครูทั่วประเทศ 63,277 คน พบว่า 96% ไม่ต้องการอยู่กับ กศจ. ขอมาอยู่กับเขตพื้นที่ หรือหน่วยงานอื่น ๆ และ 3. ขอให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องการบริหารงานบุคคล โดยเร็วที่สุด ไม่ขอรอ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เพราะผ่านมาหลายเดือนแล้ว ขอให้รัฐสภา และนายกรัฐมนตรี ยกเลิกคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลและบุคลากรทางการศึกษา คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของศธ. เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
นายปรีชา กล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องเข้าสู่กระบวนการศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดูข้อมูลว่า ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยจะพิจารณาสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนโยบาย ผู้กำกับ ผู้ปฎิบัติ และผู้สนับสนุนต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรให้ลงตัว ทั้งในส่วนของการกระจายอำนาจ และความรับผิดชอบ ทุกคนต้องเข้ามาร่วมคิดร่วมทำ ร่วมพิจารณาว่าจะเป็นอย่างไร
ด้าน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ทั้ง 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคประชาธรรมไทย พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน รวมถึงพรรคฝ่ายค้านอิสระ มาร่วมรับฟังปัญหา และรับข้อเสนอของกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษา เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งแต่ละพรรคได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และเห็นด้วยกับข้อเสนอของทางบุคลากรครูทางการศึกษา ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. ควรทำเรื่องอื่น ไม่ใช่ทำเรื่องการปรับโครงสร้าง การบริหารโรงเรียน เขตการศึกษาที่ดีต้องกระจายอำนาจไม่ใช่อำนาจเบ็ดเสร็จ.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562