อว.-มหาวิทยาลัยถกแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ใช้ระบบปิดปั้นแม่พิมพ์ป้อนตลาด
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าในปีการศึกษา 2562 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไม่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เนื่องจากรายชื่อตกค้างในบัญชีจากปีก่อนยังมีมากพอจะทยอยเรียกบรรจุได้ถึงปีการศึกษา 2563 เท่ากับนิสิตนักศึกษาที่เรียนจบหลักสูตรครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ในปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ส่อโดนลอยแพนั้น
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการประกาศชัดเจน เนื่องจากต้องสำรวจอัตราว่าง และความต้องการบรรจุของจังหวัดต่างๆก่อน บัญชีมีไม่ครบทุกจังหวัด มีแค่บางจังหวัด แต่ทางสถาบันผลิตครูอาจจะร้อนใจ เนื่องจากมีบัณฑิตจบออกมาและรอสอบบรรจุ และปีหน้าก็จะมีเด็กจบใหม่ออกมาสมทบอีกทำให้มีการผลิตสูง ขณะที่ความต้องการใช้ครูมีไม่มาก อีกทั้งจำนวนนักเรียนก็จะลดลงทุกปี โรงเรียนก็มีขนาดเล็กลง แต่ก็จะมีจำนวนผู้เกษียณอายุราชการที่จะมากำหนดกรอบอัตราว่าง ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ศธ. แต่เป็นอำนาจของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายอัตรากำลังคนภาครัฐ (คปร.) ที่จะพิจารณาคืนอัตราให้ในแต่ละปี โดยคำนวณจากอัตราส่วนระหว่างครูกับนักเรียน
นางวัฒนาพรกล่าวอีกว่า ส่วนเสียงเรียกร้องให้ สพฐ. สถาบันผลิตครู และคุรุสภาวางแผนผลิตครูให้สอดคล้องกับจำนวนการใช้นั้น การดูแผนการผลิตคุรุสภาไม่ได้ไปกำหนดจำนวนให้ แต่คุรุสภาจะดูจำนวนที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รับรองจำนวนการผลิตในแต่ละสาขามาแล้ว ซึ่งแผนการผลิตของมหาวิทยาลัย นอกจากจะดูศักยภาพว่าตัวเองผลิตได้เท่าไรแล้ว ต้องดูความต้องการใช้ครูด้วย ซึ่ง สพฐ.มีตัวเลขอัตราเกษียณฯ อยู่แล้ว และสถาบันผู้ผลิตจะต้องนำตัวเลขดังกล่าวไปวิเคราะห์ ว่าควรจะผลิตเท่าไร ซึ่งแต่ละสถาบันจะต้องคุยกัน ผลิตตามศักยภาพที่ตัวเองทำได้ สาขาครู เปิดสอนได้ง่าย พอเปิดง่ายก็รับง่าย ทำให้การกำหนดจำนวนไม่สอดคล้องกับผู้ใช้ ควบคุมการผลิตได้ยาก ผลิตออกมาปีละ 40,000-50,000 คน แล้วใช้แค่ 20,000 คน มีส่วนเกิน ทำให้บางปีมีผู้สมัครสอบครูผู้ช่วยเป็นแสนคน มหาวิทยาลัย และ อว. ต้องมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ซึ่ง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อว. ได้หารือกับสถาบันการผลิตครูแล้ว โดยมีข้อเสนอให้ผลิตครูในระบบปิด อาจจะเริ่มที่ระบบปิด 50% ก่อน โดยให้มหาวิทยาลัยไปเตรียมแผนแล้ว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 24 ต.ค. 2562