กพฐ.เคาะให้จังหวัดคิดเองวิธีรับเด็กปี63
บอร์ด กพฐ.ไฟเขียวรับนักเรียนปีการศึกษา 2563 กระจายอำนาจให้ ศธจ.-เขตพื้นที่การศึกษา กำหนดคุณสมบัติหลักเกณฑ์ เงื่อนไขพิเศษ และรับผิดชอบการรับนักเรียนโรงเรียน สพฐ.ภายในจังหวัดเอง
วันนี้ (18 ต.ค.) รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยผลการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติในหลักการและเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้จังหวัดและเขตพื้นที่การศึกษา มีส่วนร่วมกำหนดเกณฑ์และรับผิดชอบการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2563 โดยกระจายอำนาจให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตั้งคณะกรรมการรับนักเรียนระดับจังหวัด ที่มี ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เป็นประธาน มีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตในจังหวัด เป็นกรรมการ และมีผู้แทนจากหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และมีคณะกรรมการรับนักเรียนระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อีก 1 ชุด ดูแลการรับนักเรียนภายในเขตพื้นที่การศึกษาและร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษาอื่นภายในจังหวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม และเสมอภาคตามหลักธรรมาภิบาล
ประธาน กพฐ. กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการรับนักเรียนระดับจังหวัด จะมีอำนาจหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การรับนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของนักเรียน สัดส่วนการรับนักเรียนของโรงเรียน การจะสอบหรือไม่สอบ จะใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ตหรือไม่ใช้ การกำหนดการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษถ้าจำเป็นต้องมี เป็นต้น แต่สพฐ.ส่วนกลาง ยังคงหลักการเรื่องจำนวนนักเรียนต่อห้องเพื่อประกันคุณภาพ เช่น ระดับประถมศึกษาจำนวน 30 คนต่อห้อง มัธยมศึกษา 40 คนต่อห้อง หากจำเป็นต้องขยายจำนวนนักเรียนต่อห้อง ขยายได้ไม่เกิน 5 คน ส่วนการรับนักเรียนในระดับการศึกษาปฐมวัยหากมีหน่วยงานในพื้นที่จัดการศึกษาอยู่แล้ว เช่น เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ให้หน่วยงานนั้นๆ ดำเนินการรับเด็กไปก่อน ส่วนสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.จะรับในส่วนที่ไม่มีสถานศึกษาสังกัดอื่นดูแลเด็กอยู่ ทั้งนี้ที่ประชุม กพฐ.เสนอว่าควรเปิดโอกาสให้เด็กพิเศษที่สามารถเรียนรวมได้เข้าเรียนรวมกับเด็กปกติในโรงเรียนทั่วไปด้วย
“การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากอดีตคือ นโยบายการรับ สัดส่วนการรับ ไม่ได้ออกมาจากส่วนกลาง แต่เป็นอำนาจและอิสระของพื้นที่ ที่พิจารณาความเหมาะสมของบริบทในพื้นที่ เช่น เดิมอาจกำหนดให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนกับเด็กนอกเขตพื้นที่ฯ 60:40 ซึ่งต่อไปบางแห่งก็อาจจะมีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง ซึ่งในพื้นที่จะมีกรรมการ 2 ชุด ศธจ.กับผอ.สพท.ต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศได้ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้พื้นที่ได้ดำเนินการ และประกาศหลักเกณฑ์การรับนักเรียนใหเผู้ปกครองได้เตรียม” รศ.เอกชัย กล่าว.
รศ.เอกชัย กล่าวต่อไปว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงการรับนักเรียนด้วยการสอบ 100% นั้น ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และต้องดูด้วยความรอบครอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อมีการกระจายอำนาจไปแล้วจังหวัดก็มีอิสระที่จะไปพิจารณาเองได้.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562