กลุ่มลูกจ้างธุรการรร.บุกศธ.วอนขอเป็นพนักงานราชการ
กลุ่มลูกจ้างธุรการรร.สังกัดสพฐ.กว่า 200 คนบุกศธ.ร้องถูกจ้างไม่เป็นธรรมถูกตัดสิทธิสวัสดิการทุกอย่าง “ประเสริฐ” เดินหน้าเคลียร์สำนักงบฯให้กลับมาจ้างแบบอัตราจ้างตามเดิม
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มลูกจ้างธุรการสังกัดโรงเรียนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กว่า 200 คน เดินทางยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ลูกจ้างชั่วคราวในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. โดยนานวิชญ์ธพงศ์ พุ่มบุญภาคย์ ประธานสมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มลูกจ้างและนักการภารโรงทั่วประเทศกว่า 60,000 คน ถูกจ้างโดยสัญญาจ้างที่ไม่ชอบธรรม โดยจากเดิมเราอยู่ในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนมีสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการอื่นๆที่พึงมีได้ แต่ต่อมาปีงบประมาณ 2563 สพฐ.ได้ส่งหนังสือแจ้งการจัดสรรอัตราจ้างเหมาบริการ ซึ่งเมื่อเป็นตำแห่งการจ้างเหมาะบริการทำให้กลุ่มลูกจ้างถูกตัดสวัสดิการและสิทธิประกันสังคมถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงในการทำงาน ซึ่งกลุ่มลูกจ้างเกิดความลำบากใจอย่างมากและขาดขวัญกำลังใจจึงขอให้ รมว.ศึกษาธิการ มีคำตอบในเรื่องนี้ให้แก่พวกเราด้วย เพราะไม่เช่นนั้นหากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจกลุ่มลูกจ้างก็จะไม่กลับและปักหลักทวงถามที่ศธ.จนกว่าได้จะรับคำตอบให้กลุ่มลูกจ้างได้เป็นพนักงานราชการหรืออย่างน้อยให้กลับไปตำแหน่งลูกจ้างตามเดิม
ตัวแทนกลุ่มลูกจ้างรายหนึ่งจากโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พวกเราเดือดร้อนมากและไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ ซึ่งเราทำงานในตำแหน่งกลุ่มลูกจ้างธุรการในโรงเรียนมานานกว่า 10 ปีและอยู่ๆก็มาเปลี่ยนแปลงจากกลุ่มอัตราจ้างให้เป็นจ้างเหมาแทน ทำให้พวกเราเกิดความไม่มั่นคงในอาชีพ เพราะขณะนี้ทราบข้อมูลมาว่าบางเขตพื้นที่ไม่ต่อสัญญาจ้างแล้วด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลให้คำตอบว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเป็นเพราะรัฐไม่มีเงินสมทบประกันสังคมให้จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้การจ้างเหมาะแทน ซึ่งประเด็นนี้พวกเรามองว่ารัฐทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีความแตกต่างระหว่างลูกจ้างชั่วคราวกับลูกจ้างเหมาบริการ เช่น สิทธิประโยชน์เกื้อกูล หากเป็นลูกจ้างชั่วคราว มีสิทธิลา มีสิทธิประกันสังคม และสิทธิอื่นๆที่ส่วนราชการกำหนด แต่เมื่อเป็นลูกจ้างเหมาบริการ ไม่มีสิทธิประโยชน์เกื้อกูลใดๆ หรือแม้กระทั่งงบประมาณที่ใช้จ้างก็แตกต่างกัน เป็นต้น
นายประเสริฐ บุญเรือง รักษาราชการแทนปลัด ศธ. กล่าวว่า ในวันที่ 16 ต.ค.ตนและผู้บริหารสพฐ.จะไปหารือและชี้แจงกับกระทรวงการคลังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มครูธุรการกลุ่มนี้ให้ โดยจะเป็นการเยียวยาให้แก่กลุ่มครูธุรการที่มีปัญหานี้เท่านั้น เพราะกลุ่มธุรการดังกล่าวถูกจ้างเป็นอัตราจ้างมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปี 2562 แต่เมื่อปีงบประมาณ 2563 สำนักงบประมาณแจ้งเปลี่ยนสัญญาการจ้างกลุ่มอัตราจ้างให้เป็นจ้างเหมาบริการแทนจึงเป็นความเดือดร้อนของกลุ่มลูกจ้างกลุ่มนี้ ดังนั้นตนจะไปชี้แจงกระทรวงการคลังให้รับทราบถึงปัญหาและขอให้กลับใช้สัญญาจ้างเป็นอัตราจ้างเหมือนเดิม และจะให้ได้รับสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการต่างๆที่พึงมีตามเดิม ทั้งนี้ ศธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมช่วยเหลือแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับคำตอบภายในวันที่ 25 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามศธ.จะเยียวยาให้กลับมาเป็นกลุ่มอัตราจ้างตามเดิมแต่หากจะเป็นพนักงานราชการคงยังไม่สามารถทำได้ เพราะอัตรากำลังของสพฐ.ไม่เหมือนหน่วยงานราชการอื่น เนื่องจากมีการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาพบว่า อัตรากำลังข้าราชการครูของสพฐ.เกิน อีกทั้งอัตราการเกิดของเด็กก็ลดลงหากกระทรวงการคลังเห็นข้อมูลนี้คิดว่าคงไม่สามารถดำเนินการให้ได้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2562
"ณัฏฐพล "งง ทำไมม็อบครูธุรการเคลื่อนไหว ทั้งที่ตั้งงบฯไว้แล้วและเคยพูดคุยกันแล้ว
15ต.ค.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กลุ่มครูธุรการกลุ่มดังกล่าว ที่ผ่านมาเคยมาพบตนแล้ว และตนได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ รวมถึงวางแนวทางการแก้ปัญหาไปให้แล้ว ซึ่ง ศธ.พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยในส่วนงบประมาณที่ไว้จ้างให้ดำเนินการปี 2563 ก็ได้ตั้งงบฯ สำหรับจ้างกลุ่มธุรการและนักการภารโรงไว้โดยเฉพาะแล้วเช่นกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเมื่อมีการหารือกับตัวแทนไปแล้วทำไมถึงมีการออกมาเคลื่อนไหวอีก ซึ่งตนพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่และแม้จะมาด้วยจำนวนมากน้อยเพียงใดก็ยังยึดแนวทางเดิม ทั้งนี้การดำเนินการตามข้อเรียกร้องต่างๆ จะต้องไม่กระทบหรือริดรอนสิทธิผู้อื่น
“การที่กลุ่มลูกจ้างเรียกร้องให้ ศธ.ทำแบบนั้นแบบนี้ บางทีผมทำให้ไม่ได้ เพราะมันจะกระทบต่องบประมาณหลักของ ศธ. และจะส่งผลระยะยาวกระทบการจัดสรรงบประมาณทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจความลำบากของทุกคน แต่หากทุกคนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการต่อหรือไม่ต่อสัญญาจ้าง ดังนั้นขอให้รับข้อเสนอเหล่านี้ไป และยืนยันว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอีก” รมว.ศธ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 15 ตุลาคม 2562