รมว.ศึกษาธิการ เผย “บิ๊กตู่” กำชับทุกกระทรวงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเพื่อทดแทนการเกษียณอายุราชการต้องโปร่งใส ย้ำ อย่าให้มีเรื่องร้องเรียนตามมาทีหลัง ชู นโยบายขยะเป็นวาระแห่งชาติ จี้ ทุกโรงเรียนนำสู่การปฎิบัติ
วันนี้ (10 ก.ย.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้หารือเรื่องการบริหารจัดการขยะและการลดใช้ถุงพลาสติก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยทุกกระทรวงจะต้องนำไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเรื่องนี้ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดจำนวนมาก ดังนั้นเราจะต้องทำหน้าที่ในการปลูกฝังจิตสำนึกและควรมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการประเมินผลเรื่องนี้ ว่า หลังจากมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้แล้วผลที่จะเกิดจะเกิดเมื่อไร และสามารถทำได้จริงหรือไม่ อีกทั้งที่ประชุมยังมีการหารือถึงเรื่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการกำหนดมาตรการ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้สะท้อนมาถึง ศธ. เรื่องการผลิตกำลังคนเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด ที่ขณะนี้ถือว่าการผลิตกำลังคนยังไม่เพียงพอที่จะส่งต่อไปในระดับอุดมศึกษา เพื่อผลิตแรงงานที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการของตลาด ดังนั้นตนคิดว่าจะมุ่งเป้าไปที่การผลิตนักศึกษาอาชีวะในการผลิตกำลังคนรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ประชุมกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รายงานข้อมูลตัวเลขคนพิการที่ไม่ได้เข้ารับการศึกษา 30% และกลุ่มคนพิการที่เรียนหนังสือจบแล้วแต่ไม่มีงานทำ 40% ซึ่งประเด็นนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ศธ.จะรับมาปฎิบัติดูแลการศึกษาในครอบคลุมทุกภาคส่วน นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้กำชับถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในการทดแทนอัตราการเกษียรณอายุราชการของทุกกระทรวงว่าจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ลดความขัดแย้ง รวมถึงเมื่อมีมติแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว ต้องไม่ให้มีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้นตามมาอีก ดังนั้น ในส่วนของ ศธ. ก็ยังพอมีเวลาในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารให้เหมาะสมและเป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะเสนอรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการของ ศธ.ได้ ในวันที่ 17 กันยายนนี้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 10 กันยายน 2562