ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 2 : นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายก ส.บ.ม.ท.


ข่าวการศึกษา 23 ส.ค. 2562 เวลา 05:05 น. เปิดอ่าน : 7,820 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 2 : นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายก ส.บ.ม.ท.

จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( นายณัฏพล ทีปสุวรรณ) ฉบับท่ี 2

เรื่อง นโยบายด้านการศึกษา

กราบเรียน ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( นายณัฏพล ทีปสุวรรณ)

ตามที่ ฯพณฯ ได้กรุณาให้นโยบายด้านการศึกษาในหลายๆประเด็นเช่น

- จะขับเคลื่อนการศึกษาในโลกยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยี
- หลักสูตรต้องมีสาระ มีประโยชน์และวัดได้
- ต้องมีใบประกอบวิชาชีพครู ต้องเป็นวิชาชีพชั้นสูง
- ลดภาระครู ให้ครูอยู่กับเด็ก อยู่ห้องเรียน
- ต้องพัฒนาภาษาอังกฤษให้ครู ภายใน 3 ปี ครูต้องพูดภาษาอังกฤษ ได้
- ปัญหาการทับซ้อนของ "องค์กรภายในจังหวัด" ต้องแก้ปัญหาอย่างรีบด่วนเพราะจะกระทบต่อประสิทธิภาพ
- จะไม่ยึดเพียงตัวเลขมา "ควบรวม รร.ขนาดเล็ก" แต่จะทำอย่างไรให้ รร.มีประสิทธิภาพ ครูมีคุณภาพและประชาชนได้ประโยชน์ที่สุด
- การเพิ่ม สพม.ให้ครบทุกจังหวัด คงต้องปรึกษาผู้บริหารองค์กรหลักในการดำเนินการ

นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นอีกหลายประเด็นนั้น

สมาคมฯขอเรียนว่าแนวคิดและนโยบายของ ฯพณฯ นั้นเป็นนโยบายที่บรรดานักการศึกษาต่างชื่นชมว่าท่านมีวิสัยทัศน์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาของชาติบ้านเมือง อย่างไรก็ตามสมาคมมีประเด็นที่จะขอกราบเรียนเสนอเพื่อกรุณาทราบ ดังนี้

1. ตามที่ ฯพณฯ เห็นว่าปัญหาการทับซ้อนของ "องค์กรภายในจังหวัด" ต้องแก้ปัญหาอย่างรีบด่วนเพราะจะกระทบต่อประสิทธิภาพ โดยฯพณฯ เห็นว่าจะต้องให้มีการยุติความซ้ำซ้อนระหว่าง ศธภ/ศธจ และเขตพื้นที่การศึกษา นอกจากนี้ยังปรากฎเป็นข่าวอีกว่า "ศธภ. และ ศธจ. ที่เกิดขึ้นตามคำสั่ง คสช. เนื่องมาจากต้องการแก้ปัญหาการเล่นพรรคเล่นพวก การเรียกรับเงินกรณีโยกย้ายข้าราชการครู โดยก่อนหน้านี้เป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.ในพื้นที่) ซึ่งมีการกล่าวกันว่าอัตราค่าโยกย้ายครูที่ต้องการย้ายไปยังพื้นท่ีท่ีต้องการ คิดอัตราเป็นกิโลเมตร" นั้น ขอเรียนว่าปัญหาที่แท้จริงในการกำหนดให้มี ศธจ./ศธภ. นั้น มิใช่มีต้นเหตุมาจากการทุจริตของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาแต่อย่างใด แต่การเปลี่ยนแปลงเกิดจากการที่ข้าราชการระดับสูงของของกระทรวงศึกษาธิการไม่มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครูและผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ทั้งนี้อำนาจตามกฎหมายในการแต่งตั้งโยกย้ายครูและผู้บริหารโรงเรียนนั้นเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งประธานและอนุกรรมการหลายท่านมิได้อยู่ในระบบราชการ ดังนั้นผู้บริหารระดับสูงจากส่วนกลางจึงไม่สามารถใช้อำนาจในการกดดันให้เป็นไปตามความต้องการได้ ในที่สุดจึงมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งยุบ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และปลดผู้แทนครูใน ก.ค.ศ. ทุกราย การอ้างว่ามีการทุจริตจึงต้องยุบ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จึงเป็นเพียงเหตุผลที่สร้างความชอบธรรมในการยุบ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เท่านั้น การกำหนดให้มี กศจ. โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และคณะกรรมการหลายรายก็ส่งมาจากส่วนกลาง ก็เพื่อเอื้อต่อการใช้อำนาจที่เหนือกว่าสามารถสั่งการให้เป็นไปตามประสงค์ของผู้มีอำนาจได้ง่าย จริงอยู่ว่าอาจมีข้อมูลการเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย โดย อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอยู่บ้าง แต่ข้อมูลที่ปรากฎก็เป็นเพียงข่าวและเป็นส่วนน้อย และนับแต่รัฐบาล คสช. บริหารประเทศมาเป็นเวลา 5 ปี ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้สักรายทั้งๆที่รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้า การมี กศจ. ก็มิได้หมายความว่าปัญหาเรื่องทุจริตหมดไป เพราะมิได้แก้ปัญหาที่ระบบ การแก้ปัญหาเป็นเพียงเปลี่ยนตัวกลุ่มบุคคลเท่านั้น ส่วนการกล่าวอ้างว่า ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทุจริตเรื่องย้าย จนต้องมีการตัดอำนาจการบริหารงานบุคคลไปเป็นอำนาจของ ศธจ./ศธภ. นั้น ก็เป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยขาดเหตุผล เพราะ บทบาทของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา นั้น ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด การตั้ง ศธจ./ศธภ. มาคุมครูในแต่ละจังหวัดก็เป็นรูปแบบการบริหารแบบ Single Command โดยที่ รมว.ศธ. สามารถสั่งการไปที่ปลัดกระทรวง ปลัดกระทรวง สั่งการไปที่ ศธจ. และ ศธจ. ก็สามารถใช้อำนาจสั่งการไปที่ข้าราชการครู ในจังหวัดนั้นๆได้

2. กรณีที่ ฯพณฯ เห็นว่า "การเพิ่ม สพม.ให้ครบทุกจังหวัด คงต้องปรึกษาผู้บริหารองค์กรหลักในการดำเนินการ" นั้น ขอเรียนว่าการขอเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษาให้ครบทุกจังหวัดนั้นมาจากเหตุผลความจำเป็นกล่าวคือปัจจุบันมีเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจำนวน 42 เขต ซึ่งแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาต้องดูแลรับผิดชอบจัดการศึกษาหลายจังหวัด สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันกับที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่ย่อมได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการและได้รับโอกาสทางการศึกษามากกว่าสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเขตพื้นที่ เช่น นักเรียน/ครู/ผู้ปกครอง ที่อยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน หากประสงค์จะติดต่อราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 ก็จะต้องเดินทางข้ามภูเขาไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น และมีเหตุการณ์เช่นนี้อีกหลายจังหวัด รวมถึงการให้บริการทางการศึกษาต่อสถานศึกษาที่อยู่คนละจังหวัดแต่อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกัน ก็ได้รับบริการที่ต่างกันสาเหตุเนื่องจากระยะทางที่ต่างกัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯได้เคยยื่นเรื่องถึง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ยื่นเรื่องถึง อดีต รมว.ศธ. (นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) เพื่อกรุณาทราบปัญหาและขอให้แก้ปัญหาด้วยการประกาศเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้ครบทุกจังหวัด รมว.ศธ. เห็นด้วยและได้สั่งการให้นำเรื่องเสนอสภาการศึกษาเพื่อพิจารณา ในที่สุดสภาการศึกษาเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษาเป็นเขตจังหวัดทุกจังหวัด ประกอบกับ สพฐ. ได้รายงานให้สภาการศึกษา ทราบว่าการเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเป็นเขตจังหวัดนั้นไม่กระทบเรื่อง คน งบประมาณ และสถานที่ เพราะมีการเตรียมการไว้แล้ว สภาการศึกษาจึงมีมติให้เพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเป็นเขตจังหวัด แต่ปรากฎว่าผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกลับมิได้ดำเนินการเสนอเรื่องต่อ รมว.ศธ. เพื่อลงนาม ทั้งๆที่ตามกฎหมายแล้ว ต้องมีการประกาศเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเป็นเขตจังหวัดให้ครบทุกจังหวัด การไม่ดำเนินการตามมติของสภาการศึกษาที่ยังมีผลบังคับใช้และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือทบทวนมติ จึงเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ ได้

จึงขอประทานกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถือ
นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ
นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.)

ไฟโซล่าเซลล์ สปอร์ตไลท์ led Solar light ไฟโซล่า ไฟ solar cell IP67 กันน้ำและป้องกันฟ้าผ่ 10000W รับประกัน30ปี

฿199 - ฿1,358

https://s.shopee.co.th/6pmJMLjlQH?share_channel_code=6


จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 2 : นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายก ส.บ.ม.ท.จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฉบับท่ี2:นายรัชชัยย์ศรสุวรรณนายกส.บ.ม.ท.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

สพฐ.รับสมัครโรงเรียนนำร่องการใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี และหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้น ป.1 - 3) พุทธศักราช 2568

สพฐ.รับสมัครโรงเรียนนำร่องการใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี และหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้น ป.1 - 3) พุทธศักราช 2568

เปิดอ่าน 7,144 ☕ 4 มี.ค. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุรุสภาประกาศคัดเลือกรางวัลของคุรุสภา ประจำปี 2568 จำนวน 5 รางวัล
คุรุสภาประกาศคัดเลือกรางวัลของคุรุสภา ประจำปี 2568 จำนวน 5 รางวัล
เปิดอ่าน 488 ☕ 11 มี.ค. 2568

 สทศ. ประกาศผลสอบ O-NET ป.6 ปีการศึกษา 2567 แล้ว
สทศ. ประกาศผลสอบ O-NET ป.6 ปีการศึกษา 2567 แล้ว
เปิดอ่าน 2,389 ☕ 10 มี.ค. 2568

14-24 มี.ค.นี้ "คุรุสภา" เปิดรับสมัครการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ รายวิชาครู ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง
14-24 มี.ค.นี้ "คุรุสภา" เปิดรับสมัครการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ รายวิชาครู ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง
เปิดอ่าน 425 ☕ 10 มี.ค. 2568

มาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยของนักเรียน ป้องกันการลักพาตัวเด็กในสถานศึกษา
มาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยของนักเรียน ป้องกันการลักพาตัวเด็กในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 1,417 ☕ 8 มี.ค. 2568

สพฐ.เน้นย้ำมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท และการใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียนโดยใช้มาตรการ 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม)
สพฐ.เน้นย้ำมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท และการใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียนโดยใช้มาตรการ 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม)
เปิดอ่าน 862 ☕ 8 มี.ค. 2568

แนวทางการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาของสามเณรในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวทางการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาของสามเณรในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 831 ☕ 8 มี.ค. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
เปิดอ่าน 10,351 ครั้ง

ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)
ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)
เปิดอ่าน 26,689 ครั้ง

สำรวจบ้าน-พิชิตโรค
สำรวจบ้าน-พิชิตโรค
เปิดอ่าน 9,296 ครั้ง

โปรแกรม SnagIt
โปรแกรม SnagIt
เปิดอ่าน 26,894 ครั้ง

เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เปิดอ่าน 34,040 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ