แนะทบทวนหลักสูตร
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่า ตนได้มอบนโยบายแผนปฏิบัติงานของ ศธ. แผนยุทธศาสตร์แห่งชาติที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และแผนการศึกษาปฐมวัย รวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้ใช้ความระมัดระวัง มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า อีกทั้งอยากให้มีคณะทำงานทบทวนหลักสูตรที่ใช้อยู่ว่าควรปรับปรุง พัฒนาต่อยอดอย่างไรให้เท่าทันกับโลกที่เปลี่ยนไป
“ผมได้กำชับทุกฝ่ายว่าการดำเนินทุกอย่างต้องมีเป้าหมาย มีกรอบระยะเวลาที่กำหนด และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น การพัฒนาภาษาอังกฤษครูในระบบที่มีอยู่ โดยมีเป้าหมาย 3 ปีในการดำเนินการเรื่องนี้ สำหรับเป้าหมายระยะใกล้ที่อยากเห็น คือ การวางโครงสร้างการใช้งบประมาณปี 2563 เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน” รมว.ศธ. กล่าวและว่า ตนได้ขอให้แต่ละพื้นที่จัดทำข้อมูลจัดทำแผน เพราะจะช่วยในการตัดสินใจเรื่องต่างๆได้มากขึ้น ขณะเดียวกันควรมีความยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่อยากให้กฎระเบียบมาหยุดการพัฒนา
ด้าน ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการ กพฐ. กล่าวว่า รมว.ศธ.ได้มอบนโยบายให้มีการพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เน้นเด็ก และครู โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาครู ขอให้บอร์ด กพฐ.หาขั้นตอน หรือถ้านโยบายเดิม อย่างคูปองครูมีปัญหาอยู่ ส่วนที่ดีอาจจะดำเนินการต่อ แต่ส่วนที่ไม่ดีก็ต้องปรับปรุง หรือหารูปแบบอื่นมาใช้และถ้าครูได้รับการพัฒนาดีขึ้นต้องมีโอกาสได้เลื่อนวิทยฐานะ แต่ต้องตามความสามารถที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ รมว.ศธ.ได้แจ้งให้ทราบว่าได้ประสานนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการผลิตครูให้มีทักษะความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพราะหากครูไม่มีทักษะภาษาอังกฤษจะล้าสมัยในการสอน
“สำหรับการควบรวมสถานศึกษา รมว.ศธ.มองว่าถ้าควบรวมแล้วมีคุณภาพดีขึ้นก็ควรทำ และขอให้เน้นการใช้งบฯให้มีประสิทธิภาพ โดยนายณัฏฐพล ได้เล่าให้ที่ประชุมฟังว่าได้ไปตรวจเยี่ยม ร.ร.โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงในหลายๆเรื่อง แม้แต่เรื่องห้องน้ำโรงเรียนท่านบอกว่าแย่มาก ขนาดใส่รองเท้ายังไม่กล้าเข้าไปใช้ ดังนั้นหากใช้งบฯอย่างมีประสิทธิภาพทุกๆเรื่องจะดีตามไปด้วย แม้แต่เรื่องห้องน้ำที่แย่ๆนี้ด้วย” ดร.เอกชัยกล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 10 ส.ค. 2562